05:10:00
ด้วยนามของอัลเลาะห์ผู้ทรงเมตตายิ่ง
ผู้ทรงกรุณายิ่ง
คำนำ
มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิ์ของอัลเลาะห์ผู้อภิบาลสากลโลก
ขอความเมตตาและความสันติสุขจงมีแด่ผู้นำของเราคือศาสนทูตของอัลเลาะห์
และจงมีแด่ผู้ที่รักเขา
บทเรียนสั้นๆเหล่านี้กล่าวถึงเรื่อง
“อุลูมุ้ลกุรอาน” ที่เราต้องการนำเสนอแก่กุลบุตรกุลธิดาของเราที่เป็นนักศึกษาในวิทยาลัยของอัลอัซฮัร
ก่อนที่พวกเขาจะศึกษาวิชา “ตัฟซีร” เพื่อให้พวกเขาได้เรียนรู้ข้อมูลที่นักวิชาการทั้งยุคเก่าและยุคใหม่ได้นำเสนอไว้
เพื่อรับใช้อัลกุรอาน.
และเราขอวิงวอนต่ออัลเลาะห์ได้โปรดประทานให้ผลงานชิ้นนี้เกิดประโยชน์แก่กุลบุตรกุลธิดาของเรา
และเป็นผลงานที่บริสุทธิ์เพื่อพระองค์อัลเลาะห์.
และขออัลเลาะห์ได้โปรดประทานความเมตตา
และสันติสุขให้แก่ผู้นำของเราคือนบีมุฮำหมัด และแก่วงศ์วานและมิตรสหายของท่าน.
เชคอัลอัซฮัร
ศาสตราจารย์ ดร. มุฮำหมัด ซัยยิด ตอนตอวีย์
1-
นิยาม วิชาอุลูมุ้ลกุรอาน, เนื้อหา, และประโยชน์ของวิชานี้
(1)
อุลูมุ้ลกุรอาน คือวิชาการต่างๆ ที่ผสมผสานขึ้นมาจากหลายบท, ซึ่งบทเหล่านี้เกี่ยวข้องกับคัมภีร์อัลกุรอาน
ทางด้าน การประทานลงมา, เช่นรู้จักอายะห์แรกที่ถูกประทานลงมา, หรือทางด้านสาเหตุของการประทานบางอายะห์ลงมา, หรืออัลกุรอานที่ถูกประทานลงมาก่อนการฮิจเราะห์, และที่ถูกประทานลงมาภายหลังการฮิจเราะห์, อัลกุรอานที่ถูกประทานลงมาก่อนการฮิจเราะห์เรียกว่า
มักกีย์, ส่วนอัลกุรอานที่ถูกประทานลงมาภายหลังฮิจเราะห์เรียกว่า
มะดะนีย์, หรือทางด้านการบันทึก การรวบรวม และรูปแบบในการเขียน, หรือทางด้าน
ความมหัศจรรย์ของอัลกุรอาน, สำนวนโวหารของอัลกุรอาน, การยกตัวอย่างในอัลกุรอาน
และประวัติเรื่องราวในอัลกุรอาน, หรือทางด้าน การอธิบายความหมายอัลกุรอาน, การอธิบายคำและความหมายอัลกุรอาน.
(2)
เนื้อหาของวิชา อุลูมุ้ลกุรอาน : คือตัวคัมภีร์อัลกุรอาน นั่นเอง
จากด้านต่างๆที่กล่าวมาแล้ว, ซึ่งเกี่ยวข้องกับอายะห์ , ซูเราะห์, สาเหตุการประทานลงมา, มักกียะห์ และมะดะนียะห์ .
เคล็ดลับที่นักวิชาการเรียกวิชานี้ว่า อุลูมุ อัลกุรอาน (ในรูปของพหูพจน์ ที่หมายถึงหลายวิชา) โดยไม่เรียกว่า อิ้ลมุ อัลกุรอาน (ในรูปเอกพจน์ที่หมายถึง วิชาเดียว) เพราะที่จริงแล้วแต่ละบทที่ผสมผสานกันเป็นวิชานี้ตามที่เราได้เกริ่นนำมาแล้วนั้นถือเป็นวิชาหนึ่ง
วิชาหนึ่งโดยตัวมันเองอย่างเอกเทศนั่นเอง.
ยกตัวอย่างเช่นบทที่ว่าด้วย “ ความมหัศจรรย์ของอัลกุรอาน ” ก็นับกันว่าเป็นวิชาหนึ่งโดยเอกเทศในตัวมันเอง, และมีตำรับตำรามากมายที่ถูกเรียบเรียงขึ้นในเรื่องนี้, และบทที่ว่าด้วย มักกีย์ และ มะดะนีย์ ก็ถือว่าเป็นอีกวิชาหนึ่งที่เป็นเอกเทศในตัวมันเอง.
และบทที่ว่าด้วย อัลมัวฮ์กัม และ อัลมุตะชาบิห์ ก็ถือว่าเป็นวิชาที่เป็นเอกเทศเช่นเดียวกัน
…
ในเมื่อวิชาการต่างๆ
ที่นักวิชาการได้นำมาเรียบเรียงเพื่อรับใช้อัลกุรอาน, มีหลายวิชาแตกต่างกัน,จึงเรียกวิชาการแขนงนี้ว่า : อุลูมุ อัลกุรอาน, ไม่ใช่ อิ้ลมุ อัลกุรอาน.
(3) ส่วนหนึ่งของประโยชน์ในการเรียนรู้
วิชาอุลูมุ้ล กุรอาน คือ อุลูมุ้ลกุรอาน
จะให้ภาพที่สมบูรณ์แก่เราเกี่ยวกับ คัมภีร์อัลกุรอาน ในด้านการประทานลงมา, การอธิบายความหมายอัลกุรอาน (ตัฟซีร), การรวมอัลกุรอาน, และการบันทึกอัลกุรอาน, และเมื่อภาพนี้เป็นภาพที่สมบูรณ์อยู่ในใจของพวกเราแล้ว, ความสะอาดบริสุทธิ์ของคัมภีร์ อัลกุรอานก็จะเพิ่มพูนขึ้นในจิตใจของพวกเรา, และความรู้ของเราจะเพิ่มพูนขึ้น
ด้วยชี้นำสู่หนทางที่ถูกต้องของอัลกุรอาน, ด้วยระเบียบ , ข้อกำหนด,
และบทบัญญัติของอัลกุรอาน, การที่เรามีความรู้ในวิชาอุลูมุ้ลกุรอาน
อีกเช่นเดียวกันที่จะทำให้เราสามารถโต้ตอบข้อเคลือบแคลงอันไร้สาระต่างๆ
ที่พวกผู้โง่เขลาและพวกที่มีใจอาฆาตแค้นโหมกระพือขึ้นเกี่ยวกับอัลกุรอาน, และอุลูมมุ้ลกุรอานทำให้พวกเรารู้ว่าอะไรคือเงื่อนไขที่จำเป็นต้องมีสำหรับผู้ที่จะเข้าไปอธิบายความหมายอัลกุรอาน
และที่จำเป็นต้องมีสำหรับผู้ที่จะนำเสนออัลฮะดีษ ที่เกี่ยวกับข้อใช้และข้อห้าม.
การมีความรู้วิชาอุลูมุ้ลกุรอานยังทำให้เรารู้ถึงความเพียรพยายามอันสูงยิ่งที่นักวิชาการได้ใช้ไปเพื่อรับใช้อัลกุรอาน, เพราะนักวิชาการบางคนเขียนเรื่อง
อธิบายความหมายอัลกุรอาน (ตัฟซีร), บางคนเขียนเรื่องอายะห์ที่มายกเลิก (นาซิค)
และอายะห์ที่ถูกยกเลิก
(มันซูค),
บางคนเขียนเรื่อง
ความมหัศจรรย์ของอัลกุรอาน, บางคนเขียนเรื่องแนวทางการอ่านอัลกุรอาน(กิรออาต),
และบางคนก็เขียนเรื่องอื่นๆ
จากเรื่องราวที่เป็นการรับใช้คัมภีร์อัลกุรอานโดยเฉพาะ.
2
–ตำราต่างๆ
ในวิชา อุลูมุ้ลกุรอาน
ซอฮาบะห์ในยุคของท่านนบี ไม่มีความจำเป็นต้องอาศัยตำราในวิชา
อุลูมุ้ลกุรอาน เพราะพวกเขารู้วิชานี้ดี, สิ่งใดที่พวกเขาไม่รู้ ก็จะไปถามท่านนบี (ซ.ล)
ต่อมาในยุคศตวรรษที่สองของปีฮิจเราะห์, นักวิชาการเริ่มบันทึกและเรียบเรียง
วิชาการในแขนงต่างๆ, บางคนเริ่มเขียนวิชาตัฟซีร
อัลกุรอาน คนกลุ่มนี้ได้แก่ :
ยะซีด บิน ฮารูน อัซซุละมีย์ เสียชีวิตในปี ฮ.ศ. 117
ชัวะอ์บะห์
บิน ฮัจญาจ เสียชีวิตปี ฮ.ศ. 160
วะเกียะอ์
บิน ญัรรอฮ์ เสียชีวิตปี ฮ.ศ. 197
หลังจากนั้นก็มี มุฮำหมัด บิน
ญะรีร อัตตอบะรีย์ เสียชีวิตปี ฮ.ศ.
310 เป็นบุคคลที่ได้รับการยกย่องให้เป็น
ผู้อาวุโสของนักบรรยายความหมายอัลกุรอาน (ชัยคุ้ล มุฟัซซิรีน) เขาได้เรียบเรียงหนังสือชื่อ ( ญาเมียะอ์ อัลบะยาน ฟี ตัฟซีร อัลกุรอาน) ซึ่งถือว่าเป็นหนังสือที่มีความกว้างขวาง
และเหนือกว่าหนังสือตัฟซีรทั้งหลาย, หลังจากนั้นนักวิชาการก็ได้เริ่มเขียนเรื่องต่างๆ
ในวิชาอุลูมุ้ลกุรอาน นอกจาก วิชาตัฟซีร.
อะลี บิน มะดีนีย์
– อาจารย์ของอิหม่ามบุคอรี – เสียชีวิตปี ฮ.ศ. 234 ได้เรียบเรียงหนังสือขึ้นเล่มหนึ่งในเรื่อง
สาเหตุของประทานบางอายะห์อัลกุรอาน (อัซบาบุ้ลนุซูล).
อะบูอุบัยด์ : กอซิม บิน ซัลลาม เสียชีวิตปี ฮ.ศ.
224 ได้เรียบเรียงหนังสือเล่มหนึ่งในเรื่อง (อันนาซิควั้ลมันซูค) อายะห์ที่มายกเลิก
และอายะห์ที่ถูกยกเลิก
และหนังสืออีกเล่มหนึ่งในเรื่อง การอ่านแบบต่างๆ (อัลกิรออาต).
อิหม่าม อิบนุ กุตัยบะห์ เสียชีวิตปี ฮ.ศ. 276 ได้เรียบเรียงหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ มุชกิ้ล อัลกุรอาน.
ที่กล่าวมานี้เป็นนักวิชาการในศตวรรษที่สามของปีฮิจเราะห์, ต่อมาก็เป็นนักวิชาการในศตวรรษที่สี่ของปีฮิจเราะห์
พวกเขาก็ได้เข้ามารับทำหน้าที่ต่อไป.
มุฮำหมัด บิน คอลัฟ บิน มัรซุบาน เสียชีวิตปี ฮ.ศ. 309 ได้เรียบเรียงหนังสือของเขาชื่อ
(อัลฮาวีย์ ฟี อุลูมิ้ลกุรอาน)
อะบูบักร์
มุฮำหมัด บิน กอซิม อัลอันบารีย์
เสียชีวิตปี ฮ.ศ. 328 ได้เรียบเรียงหนังสือของเขาชื่อ
(อุลูมุ้ลกุรอาน)
อะบูบักร์ อัซซิญิซตานีย์ เสียชีวิตปี ฮ.ศ.
330 ได้เรียบเรียงหนังสือของเขาชื่อ
(ฆอรีบุ้ลกุรอาน)
หลังจากนั้นก็มีการเรียบเรียงตำราทยอยออกมาอยู่เรื่อยๆ
:
อะบูบักร์ อัลบากิลานีย์ เสียชีวิตปี ฮ.ศ. 402 ได้เรียบเรียงหนังสือชื่อ (เอียะอ์
ญาซ อัลกุรอาน).
อะลี บินอิบรอฮีม บิน สะอีด
อัลเฮาฟีย์ เสียชีวิตปี ฮ.ศ.
430 ได้เรียบเรียงหนังสือชื่อ (เอียะอ์รอบุ้ลกุรอาน)
อัลอิซซุ บิน อับดุสสลาม – ที่ได้รับฉายาว่า ซุลตอน อุละมาอ์ (ผู้นำของนักวิชาการ) เสียชีวิตปี ฮ.ศ.
660 ได้เรียบเรียงหนังสือชื่อ
(มะญาซุ้ลกุรอาน)
อิหม่าม อิบนุ้ลกอยยิม เสียชีวิตปี ฮ.ศ. 751 ได้เรียบเรียงหนังสือชื่อ (อักซามุ้ลกุรอาน)
ตำราเหล่านี้ผู้เรียบเรียงทุกคนได้นำเสนอแขนงหนึ่งที่เจาะจงแน่นอน
จากวิชาการอุลูมุ้ลกุรอาน และได้นำเสนอหัวข้อหนึ่งจากหัวข้อต่างๆ
ของอุลูมุ้ลกุรอานที่มีอยู่มากมาย.
หลังจากนักวิชาการเหล่านี้แล้วก็ได้มี
อิหม่ามบัดรุดดีน อัซซัรกะชีย์ เสียชีวิต
ปีฮ.ศ. 794 ได้เรียบเรียงหนังสือชุดหนึ่ง
ที่ประมวลวิชาต่างๆ ของอุลูมุ้ลกุรอานไว้ด้วยกันชื่อ (อัลบุรฮาน ฟี อุลูมิ้ลกุรอาน) หนังสือชุดนี้มีสี่เล่ม
ครอบคลุมเนื้อหาต่างๆ ของอุลูมุ้ลกุรอาน รวมสิบบท.
หลังจากนั้นก็ได้มี อิหม่าม ญ่าลาลุดดีน อัซซุยูตีย์
เสียชีวิตปี ฮ.ศ.
911 ได้เรียบเรียงหนังสือที่แพร่หลายมากเล่มหนึ่ง
เป็นหนังสือที่รวบรวมข้อเขียนส่วนใหญ่ของนักเรียบเรียงที่อยู่ในยุคก่อนหน้าเขาที่ได้เขียนไว้ในวิชาอุลูมุ้ลกุรอาน
และได้ตั้งชื่อหนังสือเล่มนั้นว่า (อัลอิตกอน ฟี อุลูมิ้ลกุรอาน) หนังสือเล่มนี้ถือเป็นหนังสืออ้างอิงที่สำคัญในวิชา
อุลูมุ้ลกุรอาน, แต่ถูกตำหนิว่ามีบางทรรศนะที่ดออีฟอยู่ในหนังสือเล่มนี้.
สำหรับยุคใหม่มีตำราในวิชาอุลูมุ้ลกุรอาน
ถูกเรียบเรียงขึ้นเป็นจำนวนมาก อาทิเช่น :
(เอียะอ์ญาซุ้ลกุรอาน) ของอัลมัรฮูม มุสตอฟา ซอดิก
อัรรอฟิอีย์
เป็นหนังสือที่จัดว่าอยู่ในขั้นดีในเรื่องนี้.
(ตัรญุมะห์ มะอานี อัลกุรอาน) ของอิหม่ามอักบัร เชคมุฮำหมัด มุสตอฟา
อัลมะรอฆีย์ – รอฮิมะฮุ้ลลอฮ์.
(มันฮัจ อัลฟุรกอน ฟี
อุลูมิ้ลกุรอาน) ของอัลมัรฮูม เชคมุฮำหมัด อะลี
สะลามะห์.
(อัลบะยาน ฟี มะบาฮิซ มิน
อุลูมิ้ลกุรอาน) ของอัลมัรฮูม เชค อับดุลวะฮ์ฮาบ
อับดุลมะญีด ฆอซลาน.
(มะบาฮิซ อุลูมิ้ล กุรอาน) ของอาจารย์ มันนาอ์ อัลกอตตอน.
0 ความคิดเห็น