11- การทำแท้งทารกที่พบว่ามีความผิดปรกติ
08:51:00
สรุปประเด็น
จากเอกสารทางวิชาการที่สืบค้นได้ดังนี้
การมีชีวิตของทารก เป็นชีวิตที่มีศักดิ์ศรี
จำเป็นต้องรักษาไว้ เมื่อแพทย์หลายท่านลงความเห็นว่า
ทารกพิการทางร่างกายให้พิจารณาดังนี้
ถ้าหากความพิการนี้
เป็นสิ่งที่ติดตัวทารกเช่นดวงตาพิการเป็นต้น
ในกรณีนี้ห้าม(ฮะรอม)ทำแท้งโดยไม่มีเงื่อนไข
แต่ถ้าหากความพิการนี้เป็นอันตรายอนุญาตให้ทำแท้งได้ก่อนใส่วิญญาณ คือก่อน 120
วันนับแต่ตั้งครรภ์ และไม่อนุญาตทำแท้งภายหลังจากใส่วิญญาณแล้ว
ถ้าหากการปล่อยทารกไว้ในครรภ์
จะเกิดอันตรายกับผู้เป็นมารดาก็อนุญาตให้ทำแท้งได้โดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ.
เอกสารที่ใช้สืบค้นในประเด็นนี้คือ
เอกสารหมายเลข 1
การทำแท้งทารกที่พบว่ามีความเป็นปรกติ
ชื่อผู้ถาม อุมม์ อัดนาน
สหรัฐอาหรับเอมิเรต
เรื่องการทำแท้งทารกพิการ
คำถาม ดิฉันมีเพื่อนคนหนึ่งกำลังตั้งครรภ์
แพทย์หลายคนลงความเห็นว่าทารกพิการ มีความจำเป็น ต้องทำแท้ง
มีบทบัญญัติทางศาสนาว่าอย่างไรในเรื่องนี้ ?
ชื่อผู้ตอบ ดร. ฮุชามุดดีน บินมูซา
อะฟานะห์
คำตอบ
ในนามของอัลเลาะห์
มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิ์แด่อัลเลาะห์ ขอพรและความสันติสุขจงมีแด่ศาสดาของอัลเลาะห์
การมีชีวิตของทารก
เป็นชีวิตที่มีศักดิ์ศรี จำเป็นต้องรักษาไว้ เมื่อแพทย์หลายท่านลงความ
เห็นว่าทารกพิการทางร่างกายให้พิจารณาดังนี้ ถ้าหากความพิการนี้
เป็นสิ่งที่ติดตัวทารกเช่นดวงตาพิการเป็นต้น ในกรณีนี้ห้าม(ฮะรอม)ทำแท้งโดยไม่มีเงื่อนไข
แต่ถ้าหากความพิการนี้เป็นอันตรายอนุญาตให้ทำแท้งได้ก่อนใส่วิญญาณ
และไม่อนุญาตทำแท้งภายหลังจากใส่วิญญาณแล้ว
และถ้าหากการปล่อยทารกไว้กลัวว่าจะเกิดอันตรายกับผู้เป็นมารดา
ก็อนุญาตให้ทำแท้งได้โดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ
ต่อไปนี้คือคำตอบของ ดร. ฮุชามุดดีน บินมูซา อะฟานะห์
อาจารย์วิชานิศาสตร์อิสลามและรากฐานนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเยรูซาเล็ม ปาเลสไตน์
สิ่งที่ควรทราบเป็นลำดับแรก ก็คือข้อ
กำหนดทางศาสนาเกี่ยวกับการทำแท้งทั่วๆไป ก่อน
ที่จะกล่าวถึงเรื่องการทำแท้งทารกที่พิการ.
นักวิชาการเห็นพ้องกันว่า ห้ามทำแท้งทารกที่ตั้งครรภ์ผ่าน
120 วันไปแล้ว ทั้งนี้เพราะวิญญาณได้ถูกใส่เข้าไปในทารกแล้ว
เมื่อผ่านกำหนดเวลาดังกล่าว ตามทัศนะของนักวิชาการส่วนใหญ่
เพราะมีหะดีษที่เล่าจากอับดิลลาห์ บุตร มัสอุด (ร.ด) ว่าท่านศาสนทูต (ซ.ล)
ผู้สัจจะและได้รับการรับรองว่ามีสัจจะ ได้เล่าให้พวกเราฟังว่า
“คนใดก็ตามในหมู่พวกเจ้านั้น การสร้างเขาจะถูกรวมอยู่ในครรภ์มาดาเป็นเวลาสี่สิบวัน
หลังจากนั้นจะกลายเป็นก้อนเลือดในเวลาเท่ากันนั้น
หลังจากนั้นจะกลายเป็นก้อนเนื้อในเวลาเท่ากันนั้น หลัง
จากนั้นอัลเลาะห์จะส่งเทวทูตมา และเขาจะถูกบัญชาไว้สี่ประการคือ ปัจจัยยังชีพของเขา อายุขัย
ของเขา การงานของเขา ชั่วหรือดี
และหลังจากนั้นวิญาณจะถูกใส่เข้าไปในร่างของเขา..” รายงานโดยบุคอรี.
มีข้อยกเว้นจากข้อกำหนดดังกล่าว
เพียงสภาพเดียวเท่านั้นคือ
เมื่อคณะเเพทย์ที่เชื่อถือได้และเป็นผู้เชี่ยวชาญได้ยืนยันว่า การปล่อยครรภ์ไว้จะก่อให้เกิดอันตรายอย่างแน่นอนแก่ชีวิต
ของผู้เป็นมารดา จึงอนุญาตให้ทำแท้งได้
ทางสภานิติศาสตร์อิสลามขององค์การสัน
นิบาตโลกอิสลาม ที่นครมักกะห์ได้มีมติไว้ดังนี้ (เมื่อตั้งครรภ์ได้ 120 วัน
ไม่อนุญาตให้ทำแท้ง ถึงแม้การตรวจทางการแพทย์จะยืนยันว่า ทารกมีรูปร่างพิการ
ยกเว้นเมื่อปรากฏตามรายงานของคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าการปล่อยทารกในครรภ์ไว้จะเป็นอันตรายอย่างแน่นอน
กับผู้เป็นมารดา จึงอนุญาตให้ทำแท้งได้ไม่ว่าทารกจะพิการหรือไม่ก็ตาม
เพื่อป้องกันอันตรายที่ใหญ่หลวงที่สุดจากอันตรายทั้งสองอย่าง (คืออันตรายที่เกิดกับชีวิตของมารดา
และอันตรายที่เกิดกับทารกจากการทำแท้ง).
ข้อมูลจาก www. Islamonline.net
ทัศนะของผู้ทบทวนบทวิจัย
(นายอรุณ บุญชม)
ทัศนะของผู้ทบทวนในประเด็นการทำแท้งทารก
ที่พบว่ามีความผิดปรกติมีดังนี้
การมีชีวิตของทารก
เป็นชีวิตที่มีศักดิ์ศรี จำเป็นต้องรักษาไว้ เมื่อแพทย์หลายท่านลงความ
เห็นว่าทารกพิการทางร่างกายให้พิจารณาดังนี้
ถ้าหากความพิการนี้
เป็นสิ่งที่ติดตัวทารกเช่นดวงตาพิการเป็นต้น
ในกรณีนี้ห้าม(ฮะรอม)ทำแท้งโดยไม่มีเงื่อนไข
แต่ถ้าหากความพิการนี้เป็นอันตรายอนุญาตให้ทำแท้งได้ ก่อนใส่วิญญาณคือก่อน 120
วันนับแต่ตั้งครรภ์ และไม่อนุญาตทำแท้งภายหลังจากใส่วิญญาณแล้ว
ถ้าหากการปล่อยทารกไว้ในครรภ์
จะเกิดอันตรายกับผู้เป็นมารดาก็อนุญาตให้ทำแท้งได้โดยไม่มีข้อแม้ใดๆ
ทัศนะนี้อาศัยหลักการของศาสนา
ไม่ใช่หลักกฎหมาย
0 ความคิดเห็น