9 – การให้กำเนิดลูกคนหนึ่งเพื่อใช้เป็นอะไหล่อวัยวะให้กับลูกอีกคนหนึ่ง
08:45:00
สรุปประเด็น
จากเอกสารทางวิชาการที่สืบค้นได้ดังนี้
- ไม่อนุญาตให้เอาอวัยวะจากผู้เยาว์
ไปให้แก่ผู้อื่น แม้จะเป็นบิดามารดาหรือพี่น้องของตนก็ตาม
-
ผู้บริจาคอวัยวะ ต้องเป็นผู้บรรลุศาสน-ภาวะ
เอกสารที่ใช้สืบค้นในประเด็นนี้คือ
เอกสารหมายเลข 1
การให้กำเนิดลูกคนหนึ่ง
เพื่อใช้เป็นอะไหล่อวัยวะให้กับลูกอีกคนหนึ่ง
พวกเรามีเพื่อนบ้านสตรีคนหนึ่ง
ที่ต้องการเปลี่ยนไต สามีไม่ยอมบริจาคให้
ผู้เป็นบิดาต้องการให้บุตรชายบริจาคไตให้แก่ผู้เป็นแม่ แต่ภรรยาต้อง การไตจากผู้เป็นสามี
ไม่ต้องการไตของผู้เป็นบุตร เพราะสามีมีอายุมาก นางไม่ต้องการจากบุตร
เพราะต้องการให้บุตรมีสุขภาพสมบูรณ์
เพื่อทำหน้าที่รับผิดชอบในภายหลัง มีข้อกำหนดทางศาสนาอย่างไร ในเรื่องนี้ ?
เชค ยูซุฟ อัลกอรฎอวีย์ ตอบว่า
การบริจาคไม่ใช่เกิดจากคำสั่ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเด็กยังเป็นผู้เยาว์ศาสนาไม่อนุญาตให้ทำการบริจาค
ผู้บริจาคนั้น จะต้องบรรลุศาสนภาวะ ใน
ขณะที่นักวิชาการบางท่านกล่าวว่า จะต้องมีอายุ 18 ปี
นักนิติศาสตร์อิสลามมีทัศนะแตกต่างกันในเรื่องวัยบรรลุศาสนภาวะ บางท่านมีทัศนะว่าอายุ
15 ปี บางท่านว่า 17 ปี หรือ 18 ปี แต่พวกแพทย์กล่าวว่าต้องมีอายุถึง 21 ปี ซึ่งถือว่าเป็นวัยที่มีความรับผิดชอบ
เพราะเรื่องการบริจาคอวัยวะเป็นเรื่องที่มีอันตรายมาก
ถ้าหากบุตรเป็นผู้เยาว์
ไม่อนุญาตให้ผู้เป็นบิดาบังคับบุตรของตน และไม่อนุญาตให้เอาอวัยวะใดจากบุตรของตน
และเมื่อบุตรบรรลุศาสนภาวะแล้ว
เขาจะเป็นผู้ตัดสินใจเองว่าจะบริจาคให้แก่แม่หรือไม่
และการทดแทนคุณมารดานั้นไม่ได้อยู่ที่การบริจาคอวัยวะให้ การบริจาคเป็นสิ่งที่ควรกระทำ
ไม่ใช่เป็นหน้าที่ที่ต้องกระทำ และไม่อนุญาตให้บิดาบังคับบุตร ให้บริจาคอวัยวะแก่มารดา
เพราะเรื่องนี้ไม่ถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องถูกบังคับให้กระทำ
แต่เป็นสิ่งที่ต้องสมัครใจกระทำเองเท่านั้น
จะไม่มีการบังคับให้บริจาคอวัยวะเป็นอันขาด.
ข้อมูลจาก www.
Islamicmedicine.org
ทัศนะของผู้ทบทวนบทวิจัย
(นายอรุณ บุญชม)
ทัศนะของผู้ทบทวนในประเด็นการให้กำเนิดลูกคนหนึ่งเพื่อใช้เป็นอะไหล่อวัยวะให้กับลูกอีกคนหนึ่งมีดังนี้
- ไม่อนุญาตให้เอาอวัยวะจากผู้เยาว์
ไปให้แก่ผู้อื่นแม้จะเป็นบิดามารดาหรือพี่น้องของตนก็ตาม
- ผู้บริจาคอวัยวะ
ต้องเป็นผู้บรรลุศาสน-ภาวะ และบริจาคอวัยวะด้วยความสมัครใจ
0 ความคิดเห็น