7-เหตุใดอัลกุรอานจึงถูกทยอยประทานลงมา
15:45:00
7-เหตุใดอัลกุรอานจึงถูกทยอยประทานลงมา
(ที่เรียกว่า ตันญีม หรือ มุนัจญัม)
พวกเราทราบกันดีว่าอัลกุรอานได้ถูกประทานลงมาให้แก่ท่านนบี
มุฮำหมัด (ซ.ล) ตลอดระยะเวลาเกินกว่ายี่สิบปี, มีนักวิชาการกล่าวถึงวิทยปัญญาและเคล็ดลับมากมายของการประทานอัลกุรอานแบบทยอยลงมา, และที่สำคัญได้แก่ :
1- ทำให้จิตใจของท่านนบี (ซ.ล) หนักแน่น และทำให้หัวใจแข็งแกร่ง
และความหนักแน่นนี้เกิดขึ้นในหลายรูปแบบได้แก่ :
- อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างบรรดานบีกับพวกพ้อง, อธิบายว่าพวกเขาทำร้ายบีของพวกเขาด้วยวิธีการต่างๆ
อย่างไร, แต่นบีก็อดทนต่อการคุกคาม
จนในที่สุดอัลเลาะห์ได้นำชัยชนะมาสู่พวกเขา.
อัลเลาะห์
ตาอาลาตรัสว่า :
{ وَكُلاًّ
نَقُصُّ عَلَيْكَ مِنْ أَنْبَاءِ الرُّسُلِ مَا نُثَبِّتُ بِهِ فُؤَادَكَ }
“และทั้งหมดนี้เราได้บอกเล่าแก่เจ้า
ถึงเรื่องราวของบรรดาศาสนทูต เพื่อทำให้จิตใจของเจ้าหนักแน่น “ (ฮูด : 120)
และพระองค์ตรัสว่า
:
{ فَاصْبِرْ
كَمَا صَبَرَ أُولُوا الْعَزْمِ مِنَ الرُّسُلِ }
“ ดังนั้นเจ้าจงอดทนดังเช่นบรรดาศาสนทูตที่มีจิตใจมั่นคงทั้งหลาย ได้อดทนมาแล้ว “ (อัลอะห์ก๊อฟ
: 35)
และพระองค์ตรัสว่า
:
{ كَذلِكَ
مَا أَتَى الَّذِيْنَ مِنْ قَبْلِهِمْ مِنْ رَّسُوْلٍ إِلاَّ قَالُوْا سَاحِرٌ
أَوْ مَجْنُوْنٌ }
“ เช่นเดียวกันนั้น
ยังไม่เคยมีศาสนทูตคนใดที่ได้มายังหมู่ชนที่อยู่ก่อนหน้าพวกเขา
นอกจากพวกเขาจะกล่าวแก่ศาสนทูตนั้นว่าเป็นนักเล่นกลหรือเป็นคนบ้า “ ( อัซซาริยาต : 52)
- ชี้แจงว่าอัลเลาะห์ ตาอาลาปกป้องคุ้มครองท่านนบี
จากกลอุบายของศัตรู อัลเลาะห์ ตาอาลาตรัสว่า :
{
يَاأَيُّهَا الرَّسُوْلُ بَلِّغْ مَا أُنْزِلَ إِلَيْكَ مِنْ رَبِّكَ وَإِنْ لَمْ
تَفْعَلْ فَمَا بَلَّغْتَ رَسَالَتَهُ وَاللهُ يَعْصِمُكَ مِنَ النَّاسِ إِنَّ اللهَ لاَ يَهْدِى الْقَوْمَ الْكَافِريْنَ
}
“ โอ้ผู้เป็นศาสนทูตจงประกาศสิ่งที่ถูกประทานลงมาแก่เจ้า จากองค์อภิบาลของเจ้า
และถ้าหากเจ้าไม่ได้ปฏิบัติ เจ้าก็ไม่ได้ทำหน้าที่ประกาศศาสนาของพระองค์, และอัลเลาะห์จะปกป้องคุ้มครองเจ้าให้พ้นจากมนุษย์
“
(อัลมาอิดะห์
: 67)
พระองค์ตรัสว่า
:
{ وَاصْبِرْ
لِحُكْمِ رَبِّكَ فَإِنَّكَ بِأَعْيُنِنَا وَسَبِّحْ بَحَمْدِ رَبِّكَ حِيْنَ
تَقُوْمُ }
“ ดังนั้นเจ้าจงอดทนต่อข้อกำหนดขององค์อภิบาลของเจ้าเถิด เพราะความจริงเจ้าอยู่ในสายตาของเรา
และเจ้าจงสดุดีพร้อมด้วยสรรเสริญองค์อภิบาลของเจ้า ขณะที่เจ้าลุกขึ้นยืน “ (อัตตูร: 48)
- อธิบายว่าความสำเร็จในบั้นปลายนั้นจะตกเป็นของศาสนทูตและบริวาร
ดัง ปรากฎในคำดำรัสของอัลเลาะห์
ตาอาลาที่ว่า :
{ إِنَّا لَنَنْصُرُ رُسُلَنَا وَالَّذِيْنَ آمَنُوْا فِى
الْحَيَاةِ الدُّنْيَا وَيَوْمَ يَقُوْمُ اْلأَشْهَادُ }
“ แน่นอนว่าเราจะช่วยเหลือศาสนทูตของเรา
และพวกที่มีศรัทธาในชีวิตแห่งดุนยานี้
และในวันที่ประจักษ์พยานทั้งหลายจะขึ้นให้การ “ (ฆอฟิร :
51)
- สั่งท่านนบีว่าไม่ต้องเสียใจต่อคนเหล่านั้น
ที่ไม่ยอมศรัทธา
ดังปรากฏในคำดำรัสของอัลเลาะห์ ตาอาลาที่ว่า :
{ فَلاَ
تَذْهَبْ نَفْسُكَ عَلَيْهِمْ حَسَرَاتٍ إِنَّ اللهَ عَلِيْمٌ بِمَا يَصْنَعُوْنَ
}
“ ดังนั้นเจ้าอย่าปล่อยจิตใจของเจ้าให้โศกเศร้าไปกับพวกเขาเหล่านั้น
เพราะแท้จริงัลเลาะห์ทรงทราบสิ่งที่พวกเขาเหล่านั้นกระทำ “ (ฟาติร : 8)
2-ดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไปในการอบรมประชากรอิสลาม
:
เราต้องรู้ว่าการดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไปนั้นมีอยู่ในหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับจารีตประเพณี การทำธุรกรรมต่างๆ และที่เกี่ยวกับการกิน และการดื่ม.
ส่วนสิ่งที่เกี่ยวกับหลักศรัทธา และหลักจรรยาที่ดีงามนั้น
อัลกุรอานจะไม่ใช้หลักค่อยเป็นค่อยไป
แต่อัลกุรอานจะใช้ความเด็ดขาดเข้าจัดการ ตั้งแต่วันแรกที่ท่านนบี (ซ.ล) ได้รับการแต่งตั้ง
โดยท่านได้ใช้พวกผู้ตั้งภาคีตั้งแต่วันแรกที่ท่านได้รับการแต่งตั้ง
ให้ทำอิบาดะห์ต่ออัลเลาะห์ตาอาลา
เพียงผู้เดียว
และใช้ให้มีจรรยาที่ดีงาม.
ที่ปรากฏชัดในการดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไปก็คือ
: อัลกุรอานไม่ได้ห้ามการดื่มสุราในวันเดียว, แต่ได้ห้ามพวกเขาดื่มสุราแบบค่อยเป็นค่อยไป.
เช่นเดียวกับการห้ามดอกเบี้ย
ที่อัลกุรอานไม่ได้ห้ามในครั้งเดียว
แต่อัลกุรอานได้ห้ามหลายขั้นตอน, โดยเริ่มขั้นตอนแรกจากคำดำรัสของอัลเลาะห์
ตาอาลาที่ว่า :
{ وَمَا
آتَيْتُمْ مِنْ رِبًا لِيَرْبُوَا فِيْ أَمْوَالِ النَّاسِ فَلاَ يَرْبُوْا عِنْدَ
اللهِ وَمَا آتَيْتُمْ مِنْ زَكَاةٍ تُرِيْدُوْنَ وَجْهَ اللهِ فَأُولئِكَ هُمُ
الْمُضْعِفُوْنَ }
“ และสิ่งที่พวกเจ้าจ่ายออกไปจากทรัพย์ดอกเบี้ย
เพื่อให้มันเพิ่มพูนในทรัพย์สินของมนุษย์
มันจะไม่เพิ่มพูน ณ ที่อัลเลาะห์เลย และสิ่งที่พวกเจ้าจ่ายไปจากทรัพย์ซะกาต
โดยบริสุทธิ์ใจต่ออัลเลาะห์
พวกเขาเหล่านั้นได้รับตอบแทนทวีคูณ “ (อัรรูม :
39)
จากนั้นจึงไปถึงขั้นตอนที่สอง ในคำดำรัสของพระองค์ที่ว่า :
{
يَاأَيُّهَا الَّذِيْنَ آمَنُوْا لاَ تَأْكُلُوْا الرِّبَا أَضْعَافًا مُضَاعَفَةً
وَاتَّقُوا اللهَ لَعَلَّكُمْ تُفْلِحُوْنَ }
“ โอ้พวกที่มีศรัทธาทั้งหลาย
พวกเจ้าอย่ากินทรัพย์ดอกเบี้ยอย่างทบทวีคูณ
และพวกเจ้าจงยำเกรงอัลเลาะห์
แน่แท้พวกท่านทั้งหลายจะได้รับความสำเร็จ “ (อาลอิมรอน :130)
แล้วจึงถึงขั้นตอนที่สามที่ตัดสินเด็ดขาดว่าดอกเบี้ยเป็นสิ่งต้องห้าม
ในคำดำรัสของพระองค์ที่ว่า :
{ الَّذِيْنَ
يَأْكُلُوْنَ الرِّبَا لاَ يَقُوْمُوْنَ إِلاَّ كَمَا يَقُوْمُ الَّذِيْ
يَتَخَبَّطُهُ الشَّيْطَانُ مِنَ الْمَسِّ
ذلِكَ بِأَنَّهُمْ قَالُوْا إِنَّمَا الْبَيْعُ مَثْلُ الرِّبَا وَأَحَلَّ
اللهُ الْبَيْعَ وَحَرَّمَ الرِّبَا }
“ พวกที่กินดอกเบี้ยพวกเขาไม่อาจยืนทรงตัวอยู่ได้
นอกจากจะมีสภาพเหมือนผู้ที่ถูกชัยตอนทำร้ายเขาจากการกระทบกระทั่ง
ทั้งนี้ก็เพราะพวกเขากล่าวว่าการค้าขายก็เหมือนกับดอกเบี้ย, ทั้งที่อัลเลาะห์อนุมัติการค้าขาย
และห้ามดอกเบี้ย “ (อัลบะกอเราะห์ : 275)
การดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไปนี้จะเห็นได้ชัดในเรื่อง
ฟัรดูของอิบาดะห์, โดยพระองค์ได้เริ่มด้วยละหมาด, ซะกาต,
ถือศีลอด
และทำฮัจญ์.
3- ตอบคำถามที่มีผู้มาถาม :
ท่านนบี (ซ.ล) ได้รับคำถามมากมาย บางส่วนมาจากพวกมุชริกีน, บางส่วนมาจากพวกผู้ศรัทธา และอีกบางส่วนมาจากพวกชาวคัมภีร์.
ในคัมภีร์อัลกุรอานมีอายะห์มากมาย
ที่มีมาในรูปของคำถาม
เช่นคำดำรัสของอัลเลาะห์ตาอาลาที่ว่า :
{
يَسْئَلُوْنَكَ عَنِ الْخَمْرِ وَالْمَيْسِرِ قُلْ فِيْهِمَا إِثْمٌ كَبِيْرٌ وَمَنَافِعُ
لِلنَّاسِ وَإِثْمُهُمَا أَكْبَرُ مِنْ نَفْعِهِمَا وَيَسْئَلُوْنَكَ مَاذَا
يُنْفَقُوْنَ قُلِ الْعَفْوَ كَذلِكَ يُبَيِّنُ اللهُ لَكُمُ اْلآيَاتِ
لَعَلَّكُمْ تَتَفَكَّرُوْنَ }
“ พวกเขาจะถามท่านเกี่ยวกับสุราและการพนัน เจ้าจงตอบเถิดว่าในทั้งสองนั้นมีโทษมากมาย
และมีประโยชน์แก่มนุษย์บ้าง, แต่โทษของมันทั้งสองมีมากกว่าประโยชน์, และพวกเขาจะถามเจ้าว่าพวกเขาจะบริจาคสิ่งใด เจ้าจงตอบว่าสิ่งที่เหลือจากการใช้จ่าย “ (อัลบะกอเราะห์ : 219)
และคำดำรัสของพระองค์ที่ว่า
:
وَيَسْئَلُوْنَكَ
عَنْ ذِى الْقَرْنَيْنِ قُلْ سَأَتْلُوْا عَلَيْكُمْ مِنْهُ ذِكْرًا }
“ พวกเขาจะถามท่านถึงเรื่อง ซุ้ลกอรนัยน์ เจ้าจงตอบว่า
เราจะอ่านจากอัลกุรอานให้พวกท่านฟังถึงเรื่องของเขา “ (อัลกะห์ฟิ : 83)
และคำดำรัสของพระองค์ที่ว่า
:
{ يَسْئَلُكَ
النَّاسُ عَنِ السَّاعَةِ قُلْ إِنَّمَا عِلْمُهَا عِنْدَ اللهِ }
“ ผู้คนจะถามเจ้าถึงเรื่องวันกิยามะห์
เจ้าจงตอบว่าความรู้ในเรื่องวันกิยามะห์นั้นมีอยู่ที่อัลเลาะห์เท่านั้น “ ( อัลอะห์ซาบ : 63)
และคำดำรัสของพระองค์ที่ว่า
:
{
وَيَسْئَلُوْنَكَ عَنِ الرُّوْحِ قُلِ الرُّوْحُ مِنْ أَمْرِ رَبِّيْ وَمَا
أُوْتِيْتُمْ مِنَ الْعِلْمِ إِلاَّ قَلِيْلاً }
“ และพวกเขาจะถามเจ้าถึงเรื่องวิญญาณ
เจ้าจงตอบเถิดว่าวิญญาณเป็นเรื่องขององค์อภิบาลของฉัน และพวกท่านไม่ได้รับความรู้ในเรื่องของวิญญาณ
เว้นไว้แต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น “ (อัลอิสรออ์ : 85)
และคำถามที่มีมายังท่านนบี
(ซ.ล)นั้นยังมีอีกมาก ในช่วงเวลาต่างๆ, และอัลกุรอานได้ตอบคำถามเหล่านั้นทั้งหมด ด้วยคำตอบที่ยืนยันว่า
อัลกุรอานนั้นมาจากพระองค์อัลเลาะห์ ตาอาลา.
4-คำตัดสินในคดี
และเหตุการณ์ต่างๆ ที่ประชาชนเกิดขัดแย้งกัน :
เป็นที่ทราบกันดีว่าวันคืนต่างๆนั้นเต็มไปด้วยเหตุการณ์มากมาย, และคดีความต่างๆ
ที่ส่วนใหญ่แล้วเป็นเรื่องที่มืดมน, อัลกุรอานถูกประทานลงมาเพื่ออธิบายถึงข้อตัดสินที่เป็นธรรม, ตัวอย่างในเรื่องนี้ได้แก่เรื่องการกล่าวหา
พระนางอาอิชะห์ (ร.ด) ว่ามีชู้ (ฮะดีษ อัลอิฟกิ) ที่พวกตีสองหน้าที่มีศรัทธาอ่อนเเอ
ได้กุเรื่องขึ้น.อัลกุรอาน
จึงได้ประทานลงมามากกว่าสิบอายะห์ ยืนยันว่าอาอิชะห์ (ร.ด) บริสุทธิ์
โดยเริ่มจากอายะห์ที่ว่า :
{ إِنَّ
الَّذِيْنَ جَاءُوْا بِالإِفْكِ عُصْبَةٌ مِنْكُمْ لاَ تَحْسَبُوْهُ شَرًّا لَكُمْ
بَلْ هُوَ خَيْرٌ لَكُمْ }
“ แท้จริงพวกที่นำข่าวเท็จมานั้น เป็นกลุ่มหนึ่งจากพวกท่าน
พวกท่านอย่าคิดว่ามันเป็นสิ่งชั่วร้ายสำหรับพวกท่าน แต่มันเป็นการดีสำหรับพวกท่าน “
ถึงคำดำรัสของพระองค์ที่ว่า
:
{ أُولئِكَ
مُبَرَّءُوْنَ مِمَّا يَقُوْلُوْنَ لَهُمْ مَغْفِرَةٌ وَرِزْقٌ كَرِيْمٌ }
“ เขาเหล่านั้นเป็นพวกที่บริสุทธิ์ จากสิ่งที่พวกมุนาฟิกีนกล่าวหา
พวกเขาได้รับการอภัยโทษและปัจจัยยังชีพอันประเสริฐ “ ( อันนูร : 11-26)
และมีตัวอย่างในเรื่องนี้อีก ได้แก่เรื่องของผู้ชายที่ขโมยเสื้อเกราะ
แล้วนำไปฝากไว้กับอีกคนหนึ่ง, ต่อมาเมื่อสิ่งที่ถูกขโมยไปถูกจับได้ ขโมยตัวจริงได้ปฏิเสธว่าเขาไม่ได้ทำเช่นนั้น, อัลเลาะห์
ตาอาลาจึงได้ประทานลงมาว่า :
{ إِنَّا
أَنْزَلْنَا إِلَيْكَ الْكِتَابَ بِالْحَقِّ لِتَحْكُمَ بَيْنَ النَّاسِ بِمَا
أَرَاكَ اللهُ وَلاَ تَكُنْ لِلْخَائِنِيْنَ خَصِيْمًا }
“แท้จริงเราได้ประทานคัมภีร์ลงมายังเจ้า
เป็นสัจธรรม เพื่อให้เจ้าตัดสินระหว่างผู้คน
ตามที่อัลเลาะห์ได้ให้เจ้าเห็น และเจ้าอย่าเป็นผู้โต้เถียงให้แก่พวกที่ทุจริต “
จนถึงคำดำรัสของพระองค์ที่ว่า
:
{ وَكَانَ
فَضْلُ اللهِ عَلَيْكَ عَظِيْمًا }
“ และความโปรดปรานของอัลเลาะห์ที่มีแก่เจ้านั้นยิ่งใหญ่
“
(อันนิซาอ์
: 105- 113)
5-บอกให้พวกที่มีศรัทธาทราบถึงสิ่งที่ศัตรูวางแผนใช้กลอุบายและทำร้าย.
เช่นคำดำรัสของ
อัลเลาะห์ ตาอาลาที่ว่า :
{ مِنَ
الَّذِيْنَ هَادُوْا يَحَرِّفُوْنَ الْكَلِمَ عَنْ مَوَاضِعِهِ وَيَقُوْلُوْنَ
سَمِعْنَا وَعَصَيْنَا وَاسْمَعْ غَيْرَ مُسْمَعٍ ..}
“ พวกที่เป็นยะฮูด
จะบิดเบือนคำพูดให้หันเหออกไปจากที่ของมัน
และพวกเขาจะกล่าวว่า พวกเราได้ยินแล้ว และพวกเราก็ได้ฝ่าฝืนแล้ว และจงฟัง
โดยที่ไม่อยู่ในวิสัยจะได้ยิน “ (อันนิซาอ์ : 46)
และคำดำรัสของพระองค์ที่ว่า :
{ أَلَمْ
تَرَ إِلَى الَّذِيْنَ يَزْعُمُوْنَ أَنَّهُمْ آمَنُوْا بِمَا أُنْزِلَ إِلَيْكَ
وَمَا أُنْزِلَ مِنْ قَبْلِكَ يُرِيْدُوْنَ أَنْ يَتَحَاكَمُوْا إِلَى
الطَّاغُوْتِ وَقَدْ أُمِرُوْا أَنْ يَكْفُرُوْا بِهِ ..}
“ เจ้าไม่ได้มองดูพวกที่อ้างว่าพวกเขาศรัทธาต่อสิ่งที่ถูกประทานลงมายังเจ้า
และที่ถูกประทานลงมาก่อนหน้าเจ้า
พวกเขาต้องการจะพากันไปให้ ตอฆูต ตัดสินทั้งที่พวกเขาถูกใช้ให้ทรยศต่อมัน “ (อันนิซาอ์ : 60)
6- ทำให้พวกผู้มีศรัทธาหันมาพิจารณาข้อผิดพลาดของพวกเขา
เพื่อไม่กลับไปทำซ้ำอีก.
ตัวอย่างในเรื่องนี้ได้แก่เรื่องราวที่อัลกุรอานได้เล่าไว้เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพวกผู้มีศรัทธาในสมรภูมิ
อุฮุด, โดยที่มีบางคนฝ่าฝืนคำสั่งของท่านรอซูลุ้ลเลาะห์
(ซ.ล) จนเป็นเหตให้พวกเขาประสบกับความพ่ายแพ้.
อัลเลาะห์
ตาอาลาตรัสว่า :
{ أَوَلَمَّا
أَصَابَتْكُمْ مُصِيْبَةٌ قَدْ أَصَبْتُمْ مِثْلَيْهَا قُلْتُمْ أَنَّى هذَا قُلْ
هُوَ مِنْ عِنْدِ أَنْفُسِكُمْ إِنَّ اللهَ عَلَى كُلِّ شَيْءٍ قَدِيْرٌ }
“ และเมื่อมีภัยอันตรายหนึ่งประสบกับพวกท่าน
ทั้งที่พวกท่านได้ให้ประสบกับพวกเขาถึงสองเท่าของมัน พวกท่านก็กล่าวว่าสิ่งนี้มาจากไหนกระนั้นหรือ, จงกล่าวเถิดว่ามันมาจากตัวของพวกท่านเอง “ (อาลิอิมรอน : 165)
และสิ่งที่อัลกุรอานได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นจากผู้มีศรัทธาคนหนึ่ง
ที่เขาเปิดเผยให้พวกผู้ตั้งภาคีทราบความประสงค์ของท่านรอซูลุ้ลเลาะห์ (ซ.ล) ที่จะเข้าพิชิตมักกะห์, คำดำรัสต่อไปนี้ของ อัลเลาะห์ ตาอาลา จึงได้ลงมาว่า :
{ يَاأَيُّهَا الَّذِيْنَ آمَنُوْا لاَ تَتَّخِذُوْا عَدُوِّيْ وَعَدُوِّكُمْ
أَوْلِيَاءَ تُلْقُوْنَ إِلَيْهِمْ بِالْمَوَدَّةِ }
“ โอ้ บรรดาผู้มีศรัทธาทั้งหลาย
พวกท่านอย่าได้คบหาศัตรูของเรา และศัตรูของพวกท่านเป็นมิตร โดยให้ความรักแก่พวกเขา
“
(อัลมุมตะฮินะห์
: 1)
7-ชี้นำสู่แหล่งที่มาของอัลกุรอาน
ว่าเป็นคำพูดของอัลเลาะห์เพียงผู้เดียว
.
และอธิบายว่า
อัลกุรอานเมื่อท่านอ่านตั้งแต่อายะห์แรกที่ลงมาจนถึงอายะห์สุดท้าย
ท่านจะพบว่าอัลกุรอานทั้งหมดนั้นมีความสอดประสานกันอย่างมั่นคง มีความกลมกลืนอย่างประณีต มีสำนวนที่หนักแน่น มีการผสมผสานที่ลึกซึ้ง และมีถ้อยคำที่ฉะฉาน. ในขณะที่เราพบว่าสำนวนของมนุษย์ที่ปรากฏในข้อเขียนต่างๆของพวกเขานั้น
บางครั้งมีความแตกต่างกันในเรื่องความเข้มข้น และอ่อนแอ, และนี่ก็คือหลักฐานชัดเจนที่บ่งชี้ว่าอัลกุรอานมาจากอัลเลาะห์
.
{ وَلَوْ كَانَ مِنْ عِنْدِ غَيْرِ اللهِ لَوَجَدُوْا فِيْهِ
اخْتِلاَفًا كَثِيْرًا }
“ และถ้าหากอัลกุรอานนั้นมาจากผู้อื่นนอกจากอัลเลาะห์แล้ว
พวกเขาจะพบความขัดแย้งอยู่ในอัลกุรอานมากมาย “
(อันนิซาอ์
: 82)
8-ทำให้จดจำอัลกุรอานได้ง่าย
:
เป็นที่ชัดเจนว่าถ้าหากอัลกุรอานถูกประทานลงมาคราวเดียวทั้งหมด, ก็จะเกิดความยากลำบากกับมวลมุสลิมที่จะจดจำและทำความเข้าใจกับอัลกุรอาน
… จึงถือว่าเป็น ฮิกมะห์ (ความหยั่งรู้) ของอัลเลาะห์ที่พระองค์ได้ทยอยประทานอัลกุรอานลงมา
เพื่อให้เกิดความสดวกแก่พวกเขาที่จะจดจำ
และเป็นการเตรียมความพร้อมให้แก่พวกเขาที่จดจำและทำความเข้าใจ .
{ وَقُرْآنًا
فَرَقْنَاهُ لِتَقْرَأَهُ عَلَى النَّاسِ عَلَى مُكْثٍ وَنَزَّلْنَاهُ تَنْزِيْلاً
}
“ และอัลกุรอานนั้นเราได้แยกมันอย่างชัดเจน
เพื่อเจ้าจะได้อ่านมันให้มนุษย์ฟังอย่างช้าๆ
และเราได้ทยอยประทานอัลกุรอานลงมา “
( อัลอิสรออ์
: 106)
0 ความคิดเห็น