7.ความอดทน
13:01:00
เล่าจากอะบียะห์ยา ซุฮัยบ์ บุตร ซินาน (ร.ด.) ว่า ท่านร่อซูลุ้ลเลาะห์ (ซ.ล.) ได้กล่าวว่า “กิจกรรมของผู้มีศรัทธานั้น ช่างประหลาดเหลือเกินเพราะกิจกรรมของเขาทั้งหมดนั้นเป็นความดีแก่ตัวเขาทั้งสิ้น ซึ่งจะไม่เป็นเช่นนั้นแก่ผู้ใด นอกจากผู้มีศรัทธาเท่านั้น : ถ้าหากเขาได้รับรับสิ่งที่น่าปลาบปลื้มยินดี เขาก็สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของอัลเลาะห์ นั่นเป็นความดีสำหรับเขา และถ้ามีสิ่งไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นกับเขา เขาก็อดทน นั่นก็เป็นความดีสำหรับเขาอีกเช่นกัน” รายงานโดยมุสลิม
7- ความอดทน
عَنْ أَبِيْ هُرَيْرَةَ رَضِيَ اللهُ عَنْهُ
عَنِ النَّبِيِّ صلى الله عليه وسلم قَالَ : " مَايُصِيْبُ الْمُسْلِمَ
مِنْ نَصَبٍ وَلاَ وَصَبٍ وَلاَ هَمٍّ وَلاَ حَزَنٍ وَلاَ أَذًى وَلاَ غَمٍّ حَتَّى الشَّوْكَةِ يُشَاكُهَاإِلاَّ كَفَّرَ اللهُ
بِهَا مِنْ خَطَايَاهُ ) رواه البخاري ومسلم
หนึ่ง : เล่าจากอะบีฮุรอยเราะห์
(ร.ด) จากท่านนบี (ซ.ล) ได้กล่าวว่า : “ ไม่มีสิ่งใดที่ประสบกับมุสลิมจากความเหน็ดเหนื่อย โรคประจำตัว ความกังวล ความเศร้า ภัยอันตรายและความมัวหมอง แม้กระทั่งหนามที่ตำนอกจากอัลเลาะห์จะให้มันเป็นเครื่องลบล้างความผิดของเขา ” รายงานโดยบุคอรีและมุสลิม.
ความหมายโดยสรุป
ท่านนบี (ซ.ล.) ได้สอนพวกเราให้รู้ถึงคุณค่าของความอดทน ต่อภัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเล็กน้อยหรือยิ่งใหญ่ก็ตาม ว่ามันเป็นสิ่งที่จะมาลบล้างบาปและความผิดให้หมดสิ้นไป โดยท่านได้กล่าวว่า ไม่ว่าสิ่งใดที่ประสบกับมุสลิมทั้งความเหน็ดเหนื่อย โรคประจำตัว ความกังวล ความเศร้า ภัยอันตรายและความมัวหมอง แม้กระทั่งหนามที่ตำนอกจากอัลเลาะห์จะให้มันเป็นเครื่องลบล้างความผิดของเขาให้หมดสิ้นไป.
คำสอนที่ได้รับจากหะดีษนี้
1-ส่งเสริมให้มีความอดทน
2- การอดทนต่อภัยพิบัติที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งลบล้างบาป
3- ความประเสริฐของผู้มีศรัทธา
عَنْ عَطَاءِ بْنِ أَبِيْ رَبَاحٍ قَالَ : قَالَ لِيْ
ابْنُ عَبَّاسٍ رَضِيَ اللهُ عَنهُمَا : أَلاَ أُرِيْكَ امْرَأَةً مِنْ أَهْلِ
الْجَنَّةِ ؟ فَقُلْتُ : بَلَى ، قَالَ هَذِهِ الْمَرْأَةُ السَّوْدَاءُ أَتَتِ
النَّبِيَّ صلى الله عليه وسلم فَقَالَتْ : إِنِّيْ أُصْرَعُ وَإِنِّيْ
أَتَكَشَّفُ فَادْعُ اللهَ تعالى لِيْ قَالَ : إِنْ شِئْتِ صَبَرْتِ وَلَكِ الْجَنَّةُ وَإِنْ شْئْتِ دَعَوْتُ الله أَنْ يُعَافِيَكِ فَقَالَتْ : أَصْبِرُ قَالَتْ : إِنِّيْ أَتَكتَشَّفُ فَادْعُ اللهَ لِيْ أَلاَّ أَتَكَشَّفَ ، فَدَعَا لَهَا ) رواه البخاري ومسلم
สอง : เล่าจากอะตออ์ (ร.ด.) ได้กล่าวว่า : อิบนุอับบาส (ร.ด.) ได้กล่าวแก่ข้าพเจ้าว่า : ข้าพเจ้าจะไม่บอกให้ท่านรู้เรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นชาวสวรรค์หรือ ? ข้าพเจ้าตอบว่า :
ครับ, อิบนุอับบาสจึงได้กล่าวว่า : มีผู้หญิงผิวดำคนนี้ ไปหาท่านนบี (ซ.ล.) แล้วกล่าวว่า : ข้าพเจ้าเป็นโรคลมบ้าหมู และอวัยวะที่สงวนของข้าพเจ้าจะเปิด (เมื่อล้มลง) ขอท่านจงขอพรต่ออัลเลาะห์ให้แก่ข้าพเจ้าด้วย ท่านได้กล่าวว่า :
ถ้าหากเธอต้องการ ให้เธอจงอดทน และเธอจะได้สวรรค์ และถ้าหากเธอต้องการ, ข้าพเจ้าจะขอต่ออัลเลาะห์ให้เธอหาย หล่อนกล่าวว่า : ข้าพเจ้าจะอดทน และหล่อนกล่าวว่าอวัยวะที่สงวนของข้าพเจ้าจะเปิด ขอท่านจงวิงวอนต่ออัลเลาะห์อย่าให้อวัยวะของฉันเปิด ท่านนบีจึงได้วิงวอนขอให้หล่อน. รายงานโดยบุคอรีและมุสลิม
ความหมายโดยสรุป
ท่านนบี (ซ.ล.) ได้สอนให้เห็นคุณค่าของความอดทน และได้ชี้ให้เห็นว่าคนที่มีความอดทนนั้นคือชาวสวรรค์ แม้ว่าคำวิงวอนของท่านนบี (ซ.ล.) จะได้รับการตอบสนองในทันทีที่ท่านวิงวอน แต่ท่านก็เลือกที่จะให้ผู้ประสบภัยพิบัติมีความอดทนเพราะผลบุญของความอดทนนั้นมีมากมาย ดังปรากฏในหะดีษนี้ ที่ท่านได้ถามความสมัครใจของหญิงผิวดำที่เป็นโรคลมบ้าหมูว่าถ้าหากเธอต้องการ ให้เธอจงอดทน และเธอจะได้สวรรค์ และถ้าหากเธอต้องการข้าพเจ้าจะขอต่ออัลเลาะห์ให้เธอหาย และหญิงผิวดำก็ตัดสินใจเลือกเอาความอดทน เพื่อนางจะได้รับสวนสวรรค์.
คำสอนที่ได้รับจากหะดีษนี้
1- ความประเสริฐของความอดทน
2- ความอดทนทำให้ได้เข้าสวรรค์
3- คำวิงวอนของท่านนบี
(ซ.ล.) จะได้รับการตอบสนองในทันที
4- ควรเลือกและตัดสินใจเอาสิ่งที่จะเกิดผลดีมากที่สุดในอาคิเราะห์
عَنْ أُمِّ سَلَمَةَ رَضِيَ اللهُ عنهَا قَالَتْ :
مَامِنْ عَبْدٍ تُصِيْبُهُ مُصِيْبَةٌ فَيَقُوْلُ : إِنَّا لِلّهِ وَإِنَّا إِلَيْهِ رَاجِعُوْنَ اَللَّهُمَّ اؤْجُرْنِيْ فِيْ مُصِيْبَتِيْ
وَأَخْلِفْ لِيْ خَيْرًا مِنْهَا إِلاّ آجَرَهُ اللهُ فِيْ مُصِيْبَتِهِ وَأَخْلَفَ لَهُ خَيْرًا مِنْهَا قَالَتْ فَلَمَّ تُوُفِّيَ
أَبُوْ سَلَمَةَ قُلْتُ كَمَا أَمَرَنِي رسولُ الله صلى الله عليه وسلم فَأَخْلَفَ
اللهُ تعالى لِيْ خَيْرًا مِنْهُ رسولَ الله صلى الله عليه وسلم " رواه مسلم
สาม : เล่าจากอุมมิ ซะลามะห์ (ร.ด.) ได้กล่าวว่า ข้าพเจ้าได้ยินท่านรอซูลุ้ลเลาะห์ (ซ.ล.) กล่าวว่า : “ ไม่มีบ่าวคนใดที่ภัยพิบัติเกิดขึ้นกับเขาแล้วเขากล่าวว่า แท้จริงพวกเราเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลเลาะห์ และแท้จริงพวกเราต้องกลับไปหาพระองค์ โอ้พระองค์อัลเลาะห์ ได้โปรดประทานผลบุญแก่ข้าพเจ้าในภัยพิบัติของข้าพเจ้า และได้โปรดทดแทนสิ่งที่ดีกว่าภัยพิบัตินั้นแก่ข้าพเจ้านอกจากอัลเลาะห์จะประทานผลบุญแก่เขาในภัยพิบัติของเขานั้น และจะประทานสิ่งที่ดีกว่าให้แก่เขา”
อุมมุซะลามะห์ ได้กล่าวว่า : เมื่ออะบูซะลามะห์เสียชีวิต ข้าพเจ้าได้กล่าวดังที่ท่านรอซูลุ้ลเลาะห์ (ซ.ล.) ใช้ข้าพเจ้า ต่อมาอัลเลาะห์ได้ทดแทนสิ่งที่ดีกว่าเขาให้แก่ข้าพเจ้า นั่นคือท่านรอซูลุ้ลเลาะห์ (ซ.ล.) . รายงานโดยมุสลิม อะบูดาวูด ติรมีซี และน่าซาอี.
ความหมายโดยสรุป
ท่านรอซูลุ้ลเลาะห์ (ซ.ล.) ได้บอกให้พวกเราทราบว่า วิธีการเยียวยาอย่างหนึ่งที่จะทำให้จิตใจเข้มแข็งและสามารถต่อสู้กับภัยพิบัติเมื่อเกิดขึ้น คือการกล่าวคำว่า “แท้จริงพวกเราเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลเลาะห์ และแท้จริงพวกเราต้องกลับไปหาพระองค์ ข้าแด่พระองค์อัลเลาะห์ ได้โปรดประทานผลบุญแก่ข้าพเจ้าในภัยพิบัติของข้าพเจ้า และได้โปรดทดแทนสิ่งที่ดีกว่าภัยพิบัตินั้นแก่ข้าพเจ้า” เพราะเขาจะเข้าใจว่าสรรพสิ่งทั้งปวงเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลเลาะห์ สิ่งที่พระองคืประทานให้แก่เรา มันก็ยังเป็นของพระองค์ และสิ่งที่พระองค์เอาคืนไป มันก็เป็นของพระองค์ โดยพระองค์ไม่ได้ทุจริตผู้ใด และเมื่อได้กล่าวประโยคดังกล่าวพระองค์อัลเลาะห์จะประทานผลบุญแก่เขาในภัยพิบัติของเขานั้น และจะประทานสิ่งที่ดีกว่าให้แก่เขา เช่นที่อุมมุ ซะลามะห์ ได้กล่าวขณะเมื่อสามีของนางคืออะบูซะลามะห์เสียชีวิต
ซึ่งต่อมาภายหลังอัลเลาะห์ได้ทดแทนบุคคลที่ดีกว่าสามีของเขาให้แก่เขา บุคคลผู้นั้นคือท่านรอซูลุ้ลเลาะห์ (ซ.ล.).
คำสอนที่ได้รับจากหะดีษนี้
1- คำกล่าวที่ท่านนบี(ซ.ล.)สอนให้กล่าว มีผลทำให้จิตใจเข้มแข็ง และทำให้ได้รับผลตอบแทนที่ดี
2- ความประเสริฐของความอดทน และคำกล่าวที่ท่านนบี (ซ.ล.) สอน
3- การยกตัวอย่างทำให้เกิดความมั่นใจในผลสัมฤทธิ์
4- ท่านนบี
(ซ.ล.) เป็นผู้ประเสริฐที่สุด
عَنْ أَنَسٍ رضي الله عنه قال : قال رسولُ اللهِ صلى
الله عليه وسلم : " لاَيَتَمَنَّ أَحَدُكُمْ الْمَوْتَ لِضُرٍّ أَصَابَهُ
فَإِنْكَانَ لاَبُدَّ فَاعِلاً فَلْيَقُلْ : اَللَّهُمَّ أَحِيِنِيْ مَاكَانَتِ
الْحَيَاةُ خَيْرًالِيْ وَتَوَّنِيْ إِذَاكَانَتِ الْوَفَتةُ خَيْرًالِيْ "
متفق عليه
สี่ : เล่าจากอะนัส
(ร.ด.) ว่าท่านรอซูลุ้ลเลาะห์ (ซ.ล.) ได้กล่าวว่าคนใดคนหนึ่งในพวกท่าน
จะต้องไม่อยากตายเพราะมีความเดือดร้อนที่มาประสบกับเขา แต่ถ้าหากเขาอยู่ในภาวะที่จำเป็นต้องอยากตาย ให้เขากล่าวว่าข้าแด่อัลเลาะห์ ได้โปรดให้ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่ต่อไป ตราบที่การมีชีวิตอยู่เป้นความดีสำหรับข้าพเจ้า และได้โปรดให้ข้าพเจ้าตายไป เมื่อความตายเป็นการดีสำหรับข้าพเจ้า” รายงานโดยบุคอรีและมุสลิม.
ความหมายโดยสรุป
ท่านรอซูลุ้ลเลาะห์ (ซ.ล.) ได้แนะนำผู้มีศรัทธาให้ต่อสู้กับความยากลำบากและภัยพิบัติต่างๆที่มาประสบกับเขาไม่ว่าจะมารูปของความยากจน ความเจ็บไข้ได้ป่วยความสูสญเสียที่ทำให้เกิดความเศร้าโสกเสียใจ โดยให้มีความอดทน การต่อสู้เพื่อเอาชนะภัยพิบัติเหล่านั้นด้วยหัวใจที่เปี่ยมล้นด้วยความศรัทธาว่าเมื่อได้อดทนและต่อสู้อย่างถึงที่สุดแล้ว อัลเลาะห์ ตาอาลาจะต้องช่วยเหลือเขา ท่านรอซูลุ้ลเลาะห์ (ซ.ล.) ได้ห้ามผู้มีศรัทธาไม่ให้ท้อแท้และสิ้นหวังจากความเมตตาของอัลเลาะห์จนถึงขั้นอยากตาย แต่ถ้าหากมันถึงขั้นที่สุดก็ห้ามฆ่าตัวตาย เพราะการฆ่าตัวตายเป็นบาปใหญ่ สิ่งที่ผู้มีศรัทธาจะทำได้ก็เป็นเพียงการวิงวอนขอความตายให้มาเกิดขึ้นกับเขา ถ้าหากมันเป็นสิ่งที่ดีกับเขายิ่งกว่าการมีชีวิตอยู่.
คำสอนที่ได้รับจากหะดีษนี้
1- ห้ามอยากตาย เพราะประสบกับภัยพิบัติเพราะนั่นคือการทดสอบของอัลเลาะห์
2- ต้องอดทนและต่อสู้ฟันฝ่ากับความยากลำบากต่างๆ
ที่เกิดขึ้นโดยหวังความช่วยเหลือจาก
อัลเลาะห์ ตาอาลา
3- ห้ามฆ่าตัวตาย เพราะเป็นบาปใหญ่
4- อนุญาตให้วิงวอนขอความตายเมื่อจำเป็น
عَنْ أَبِيْ صُهَيْبِ بْنِ سِنَانٍ رَضِيَ اللهُ عَنْهُ
قَالَ : قَالَ رسولُ اللهِ صلى الله عليه وسلم " عَجَبًا ِلأَمْرِ
الْمُؤْمِنِ إِنَّ أَمْرَهُ كُلَّهُ لَهُ خَيْرٌ وَلَيْسَ ذَلِكَ ِلأَحَدٍ إِلاَّ
ِللْمُؤْمِنِ إِنْ أَصَابَتْهُ سَرَّاءُ شَكَرَ فَكَانَ خَيْرًا لَهُ وَإِنْ
أصَابَتْهُ ضَرَّاءُ صَبَرَ فَكَانَ خَيْرًا لَهُ " رواه مسلم
ห้า : เล่าจากอะบียะห์ยา ซุฮัยบ์ บุตร ซินาน (ร.ด.) ว่า ท่านร่อซูลุ้ลเลาะห์ (ซ.ล.) ได้กล่าวว่า “กิจกรรมของผู้มีศรัทธานั้น ช่างประหลาดเหลือเกินเพราะกิจกรรมของเขาทั้งหมดนั้นเป็นความดีแก่ตัวเขาทั้งสิ้น ซึ่งจะไม่เป็นเช่นนั้นแก่ผู้ใด นอกจากผู้มีศรัทธาเท่านั้น : ถ้าหากเขาได้รับรับสิ่งที่น่าปลาบปลื้มยินดี เขาก็สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของอัลเลาะห์ นั่นเป็นความดีสำหรับเขา และถ้ามีสิ่งไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นกับเขา เขาก็อดทน นั่นก็เป็นความดีสำหรับเขาอีกเช่นกัน” รายงานโดยมุสลิม
ความหมายโดยสรุป
ท่านร่อซูลุ้ลเลาะห์
(ซ.ล.) ได้บอกให้พวกเราทราบว่า กิจกรรมของผู้มีศรัทธาทั้งหมดนั้นเป็นความดีแก่ตัวเขาทั้งสิ้น เพราะถ้าหากเขาได้รับรับสิ่งที่น่าปลาบปลื้มยินดี เขาก็สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของอัลเลาะห์ และนั่นเป็นความดีของเขา และถ้ามีสิ่งไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นกับเขา เขาก็อดทนไว้ และนั่นก็เป็นความดีสำหรับเขาอีกเช่นกัน.
คำสอนที่ได้รับจากหะดีษนี้
1- กิจกรรมของผู้มีศรัทธาล้วนเป็นความดี
2- สำนึกบุญคุณ เมื่อได้รับสิ่งที่ดี อดทนเมื่อประสบภัยพิบัติ
3- ความประเสริฐของการสำนึกบุญคุณของอัลเลาะห์ และความอดทน.
0 ความคิดเห็น