5.ความกตัญญู
12:58:00
ท่านรอซูลุ้ลเลาะห์ (ซ.ล.) ได้แนะนำให้พวกเราทราบถึงวิธีการทดแทนคุณบิดามารดา เมื่อมีผู้มาถามท่านว่าภายหลังจากบิดามารดาเสียชีวิตไปแล้วยังจะมีช่องทางใดบ้างให้ฉันได้ทำความดีทดแทนคุณบิดามารดาของฉัน ท่านตอบว่ามีคือ...........................
5- ความกตัญญู
5- ความกตัญญู
319 عَنْ عَبْدِ اللهِ عَمْرٍو بْنِ الْعَاصِ
رَضِيَ اللهُ عَنْهُمَا قَالَ " أَقْبَلَ رَجُلٌ إِلَى نَبِيِّ اللهِ صَلى
اللهُ عليه وسلم فَقَالَ : أُبَايِعُكَ عَلَى الْهِجْرَةِ وَالْجِهَادِ أَبْتَغِيْ
اْلأَجْرَ مِنَ اللهِ تعالى . قَالَ " فَهَلْ لَكَ مِنْ وَالِدَيْكَ أَحَدٌ
حَيٌّ ؟ " قَالَ : نَعَمْ بَلْ كِلاَهُمَا قَالَ : " فَتَبْتَغِي
اْلأَجْرَ مِنَ اللهِ تَعَالَى " قَالَ : نَعَمْ . قَالَ :" فَارْجِعْ
إِلَى وَالِدَيْكَ ، فَأَحْسِنْ صُحْبَتَهُمَا " رواه البخاري ومسلم
หนึ่ง : เล่าจากอับดิ้ลลาห์
บุตร อัมร์ บุตร อัลอาส (ร.ด.) ว่ามีชายคนหนึ่งมาหาท่านนบี (ซ.ล.) และกล่าวว่า
ฉันขอให้สัตยาบันต่อท่านว่าจะอพยพ และจะต่อสู้ (ญิฮาด)
โดยฉันมุ่งหวังผลบุญจากอัลเลาะห์ ตาอาลา ท่านรอซูลุ้ลเลาะห์ถามว่า “มีบิดามารดาของท่านสักคนไหมที่ยังมีชีวิตอยู่?” เขาตอบว่า ครับ,
ยังมีชีวิตอยู่ทั้งสองคน ท่านกล่าวว่า “ท่านต้องการแสวงหาผลบุญจากอัลเลาะห์
ตาอาลาใช่ไหม?” เขาตอบว่า ใช่ ท่านจึงกล่าวว่า “ถ้าเช่นนั้นท่านจงกลับไปหาบิดามารดาของท่านเถิดและจงปรนนิบัติแก่เขาทั้งสองเป็นอย่างดี”
รายงานโดยบุคอรีและมุสลิม.
ความหมายโดยสรุป
ท่านนบี (ซ.ล.)
ได้แนะนำให้พวกเราได้ทราบถึงความยิ่งใหญ่ของการทดแทนคุณบิดามารดาว่ามีความยิ่งใหญ่และสำคัญยิ่งกว่าการต่อสู้ในวิถีทางของอัลเลาะห์
โดยมุ่งแสวงหาผลบุญ ไม่ใช่เพื่อแสวงหาทรัพย์สินหรือชื่อเสียง
ท่านได้ถามชายคนหนึ่งที่มาหาท่านโดยมุ่งมั่นจะออกไปต่อสู้เพื่อแสวงหาผลบุญ ท่านได้ถามเขาว่า ท่านมีบิดามารดาของที่ยังมีชีวิตอยู่ไหม
?” เขาตอบว่า
บิดามารดาของเขายังมีชีวิตอยู่ ท่านกล่าวว่า ท่านต้องการแสวงหาผลบุญจากอัลเลาะห์
ตาอาลาใช่ไหม? เขาตอบว่า ใช่
ท่านจึงกล่าวว่า
ถ้าเช่นนั้นท่านจงกลับไปหาบิดามารดาของท่านเถิดและจงปรนนิบัติแก่เขาทั้งสองเป็นอย่างดี.
คำสอนที่ได้รับจากหะดีษนี้
1-
ผู้นำควรถามสภาพความเป็นอยู่ของผู้ตาม
2-
การทดแทนคุณบิดามารดา มีความสำคัญยิ่งกว่าการต่อสู้(ญิฮาด)
3-
บุตรมีหน้าที่ต้องกตัญญูต่อบิดามารดา
4-
ความประเสริฐของการกตัญญูต่อบิดามารดา
عَنْ أَبِيْ أُسَيْدٍ مَالِكِ بْنِ رَبِيْعَةَ
السَّاعِدِيِّ رضي اللهُ عنه قال : بَيْنَمَا نَحْنُ عِنْدَ رَسُولِ اللهِ صلى
الله عليه وسلم إِذْجَاءَهُ رَجُلٌ مِنْ بَنِيْ سَلَمَةَ فَقَالَ : يَارسولَ اللهِ
هَلْ بَقِيَ مِنْ بِرِّ أَبَوَيَّ شَيْءٌ أَبَرُّهُمَا بِهِ بَعْدَ مَوْتِهِمَا
قَالَ : " نَعَمْ اَلصَّلاَةُ عَلَيْهِمَا وَاْلاِسْتِغْفَارُ لَهُمَا
وَإِنْفَاذُ عَهْدِهِمَا مِنْ بَعْدِهِمَا وَصِلَةُ الرَّحِمِ الَّتِيْ
لاَتُوْصَلُ إِلاَّ بِهِمَا وَإِكْرَامُ صَدِيْقِهِمَا " رواه أبوداود
สอง : เล่าจากอะบีอุสัยด์
มาลิก บุตร รอบีอะห์ อัซซาอิดีย์ (ร.ด.) ว่า ขณะที่พวกเราอยู่กับท่านรอซูลุ้ลเลาะห์
(ซ.ล.) ทันใดนั้นได้มีชายคนหนึ่ง จากตระกูลบะนีสะละมะห์ เข้ามาหาท่านแล้วกล่าวว่า
โอ้ท่านรอซูลุ้ลเลาะห์ ยังจะมีสิ่งใดเหลือให้ฉันได้ทำความดีทดแทนคุณบิดามารดาของฉันได้บ้างภายหลังจากท่านทั้งสองเสียชีวิตไปแล้ว
ท่านตอบว่ามีคือการวิงวอนให้แก่เขาทั้งสอง การขออภัยโทษให้แก่เขาทั้งสอง
การนำสัญญาของเขาทั้งสองมาดำเนินการให้สำเร็จลุล่วง ภายหลังจากเขาทั้งสองจากไป
และการเชื่อมสัมพันธ์กับเครือญาติ
ที่ไม่อาจเชื่อสัมพันธ์ได้นอกจากโดยเขาทั้งสอง
และการให้เกียรติแก่เพื่อนของเขาทั้งสอง” รายงานโดยอะบูดาวูด.
ความหมายโดยสรุป
ท่านรอซูลุ้ลเลาะห์
(ซ.ล.) ได้แนะนำให้พวกเราทราบถึงวิธีการทดแทนคุณบิดามารดา
เมื่อมีผู้มาถามท่านว่าภายหลังจากบิดามารดาเสียชีวิตไปแล้วยังจะมีช่องทางใดบ้างให้ฉันได้ทำความดีทดแทนคุณบิดามารดาของฉัน
ท่านตอบว่ามีคือการวิงวอนให้แก่เขาทั้งสอง การขออภัยโทษให้แก่เขาทั้งสอง
การนำสัญญาของเขาทั้งสองมาดำเนินการให้สำเร็จลุล่วง ภายหลังจากเขาทั้งสองจากไป
และการเชื่อมสัมพันธ์กับเครือญาติ
ที่ไม่อาจเชื่อสัมพันธ์ได้นอกจากโดยเขาทั้งสอง
และการให้เกียรติแก่เพื่อนของเขาทั้งสอง.
คำสอนที่ได้รับจากหะดีษนี้
1- วิงวอนให้แก่บิดามารดาภายหลังเขาทั้งสองเสียชีวิต
2-
ขออภัยโทษให้แก่เขาทั้งสอง
3-
นำสัญญาของเขาทั้งสองมาดำเนินการให้สำเร็จลุล่วง
4-
เชื่อมสัมพันธ์กับเครือญาติ ที่ไม่อาจเชื่อสัมพันธ์ได้นอกจากโดยเขาทั้งสอง
5-
ให้เกียรติแก่เพื่อนของเขาทั้งสอง.
عَنْ أَبِي سَعِيدٍ قَالَ : قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى
اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ "مَنْ
لَمْ يَشْكُرْ النَّاسَ لَمْ يَشْكُرْ اللَّهَ" رواه الترمذي
สาม : เล่าจากอะบีสะอีดว่า
ท่านรอซูลุ้ลเลาะห์ (ซ.ล.) ได้กล่าวว่า ผู้ที่ไม่รู้จักขอบคุณมนุษย์ เขาก็ไม่ได้ขอบคุณอัลเลาะห์”
รายงานโดยติรมีซี.
ความหมายโดยสรุป
ท่านบี (ซ.ล.)
ได้อธิบายให้พวกเราได้ทราบในหะดีษนี้ว่าการรู้คุณของผู้มีพระคุณนั้นเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก
และต้องทดแทนคุณของผู้มีพระคุณ
ซึ่งชีวิตของเรานั้นมีผู้มีพระคุณมากมายเช่นบิดามารดา ครูอาจารย์ ญาติมิตร
เพื่อนพ้องถึงขนาดที่ว่า ถ้าหากเขาไม่รู้จักขอบคุณมนุษย์ผู้พระคุณ เขาก็ไม่ได้ขอบคุณอัลเลาะห์
เมื่อเขาไม่ได้ขอบคุณอัลเลาะหื เขาก็เป็นผู้เนรคุณต่อพระองค์คำสอนที่ได้รับจากหะดีษนี้
1-
ต้องทดแทนคุณของผู้มีพระคุณ
2-
การกตัญญูรู้คุณต่อมนุษย์ เป็นการกตัญญูต่ออัลเลาะห์
3- การไม่กตัญญูต่อมนุษย์
เป็นการไม่กตัญญูต่ออัลเลาะห์
عَنْ عَمْرٍوبْنِ شُعَيْبٍ عَنْ أَبِيْهِ عَنْ جَدِّهِ
رَضِيَ اللهُ عَنْهُمْ قَالَ : " لَيْسَ مِنَّا مَنْ لَمْ يَرْحَمْ
صَغِيْرَنَا وَ يَعْرِفْ شَرَفَ كَبِيْرِنَا" رواه أبوداود والترمذي
สี่ : “ ไม่ใช่เป็นพวกเรา
ผู้ที่ไม่เมตตาผู้น้อยของเรา และไม่รู้จักยกย่องผู้อาวุโสของเรา ”
ความหมายโดยสรุป
ท่านบี (ซ.ล.)
ได้อธิบายให้พวกเราได้ทราบในหะดีษนี้ว่าความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์
และการยกย่องให้เกียรติเป็นเหตุให้ได้ใกล้ชิดกับท่าน ส่วนผู้ที่ไม่มีความเมตตาต่อผู้น้อย และไม่รู้จักยกย่องและทดแทนคุณผู้อาสุโสนั้น
เขาไม่อยู่ในประชาชาติของท่าน.
คำสอนที่ได้รับจากหะดีษนี้
1-
ต้องเมตตาต่อผู้น้อย
2-
ต้องยกย่องให้เกียรติผู้อาวุโส
3-
การเมตตาต่อผู้น้อยและยกย่องให้เกียรติผู้อาวุโส เป็นเหตุให้ได้ใกล้ชิดกับท่านนบี (ซ.ล.)
عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ رَضِيَ اللهُ عَنْهُ قَالَ :
قَالَ رسولُ اللهِ صلى اللهُ عليه وسلم : "لاَ يَجْزِيْ وَلَدٌ وَالِدًا
إِلاَّ أَنْ يَجِدَهُ مَمْلُوْكًا فَيَشْتَرِيَهُ فَيَعْتِقَهُ " رواه مسلم
ห้า : เล่าจากอะบีฉุรอยเราะห์
(ร.ด.) ว่าท่านรอซูลุ้ลเลาะห์ (ซ.ล.) ได้กล่าวว่า “
บุตรจะไม่สามารถทดแทนคุณบิดามารดาได้ นอกจากเขาจะพบว่าบิดามารของเขาเป็นทาส
และเขาได้ซื้อมาปลดปล่อยเป็นเสรีชน” รายงานโดยมุสลิม.
ความหมายโดยสรุป
ท่านรอซูลุ้ลเลาะห์
(ซ.ล.) ได้แนะนำให้พวกเราได้ทราบว่าบุญคุณของบิดามารดานั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าบุตรจะทดแทนคุณได้โดยง่าย
นอกจากบุตรจะพบว่าบิดามารดาเป็นทาสและได้ซื้อตัวมาปลดปล่อยให้เป็นอิสระ
ซึ่งโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้นั้นเป็นไปได้น้อยมาก
คำสอนที่ได้รับจากหะดีษนี้
1-
บุญคุณของบิดามารดานั้นยิ่งใหญ่
2-
หน้าที่ของบุตรคือการทดแทนคุณบิดามารดา
0 ความคิดเห็น