4.ความสะอาด
12:56:00
จากอะบีฮุรอยเราะห์ (ร.ด.) ว่าแท้จริงท่านนบี (ซ.ล.) ได้กล่าวว่า : “ ท่านทั้งหลายจงระวังสองประการที่จะทำให้ถูกสาปแช่ง ” พวกเขา (อัครสาวก) ได้ถามว่า : สองประการนั้นคืออะไร? ท่านตอบว่า : “ ผู้ที่ถ่ายอุจจาระปัสสาวะลงในทางสัญจรหรือที่พักร่มของผู้คน” รายงานโดยมุสลิม
4- ความสะอาด
4- ความสะอาด
عَنْ مَالِكٍ الأَشًعَرِيِّ عَنِ النَّبِيِّ صلى الله
عليه وسلم قَالَ : "اَلطُّهُوْرُ شَطْرُ اْلإِيْمَانِ" رواه مسلم
หนึ่ง : เล่าจากมาลิก อัลอัชอะรีย์ จากท่านนบี
(ซ.ล.) ได้กล่าวว่า “ ความสะอาดเป็นครึ่งหนึ่งของความมีศรัทธา(อีหม่าน) ” รายงานโดยมุสลิม.
ความหมายโดยสรุป
ท่านนบี (ซ.ล.) ได้ย้ำให้พวกเราได้ทราบถึงความสำคัญของความสะอาดว่าเป็นครึ่งหนึ่งของความมีศรัทธา (อีหม่าน) ทั้งนี้เนื่องจากความสะอาดเป็นเงื่อนไขสำคัญของอิบาดะห์เช่นละหมาด ที่ต้องมีความสะอาดทั้งร่างกาย เสื้อผ้า และสถานที่ละหมาด นอกเหนือไปจากความสะอาดภายในคือความบนิสุทธิ์ใจในการทำความดีเพื่ออัลเลาะห์ ตาอาลาเพียงผู้เดียว.
คำสอนที่ได้รับจากหะดีษนี้
1- ความสะอาดเป็นครึ่งหนึ่งของความมีศรัทธษ
(อีหม่าน)
2- เงื่อนไขประการหนึ่งของละหมาดคือความสะอาด
3- ให้รักษาความสะอาดอยู่เสมอ
4- ให้รักษาความสะอาดทั้งภายนอกและภายใน.
عن أبي هريرة رضي الله عنه : أَنَّ النَّبِيَّ صلى الله عليه وسلم قال : " اِتَّقُوْا اللَّعَّانَيْنِ " قَالُوْا :
وَمَا اللَّعَّانَانِ ؟ قَالَ : " اَلَّذِيْ يَتَخَلَّى فِي طَرِيْقِ النَّاسِ أَوْ فِي ظِلِّهِمْ " رواه مسلم
สอง : จากอะบีฮุรอยเราะห์ (ร.ด.) ว่าแท้จริงท่านนบี (ซ.ล.) ได้กล่าวว่า : “ ท่านทั้งหลายจงระวังสองประการที่จะทำให้ถูกสาปแช่ง ” พวกเขา (อัครสาวก) ได้ถามว่า : สองประการนั้นคืออะไร? ท่านตอบว่า : “ ผู้ที่ถ่ายอุจจาระปัสสาวะลงในทางสัญจรหรือที่พักร่มของผู้คน” รายงานโดยมุสลิม
ความหมายโดยสรุป
ท่านนบี
(ซ.ล.) ได้สอนประชาชาติของท่านให้รักษาความสะอาด และไม่กระทำการใดๆ อันเป็นการรบกวนผู้คนให้รำคาญและเดือดร้อน จนเป็นเหตุให้ผู้คนสาปแช่งเขาเช่นการปัสสาวะและอุจจาระที่ทางสัญจรของผู้คนและในสถานที่พักอาศัยร่มเช่นศาลาพักร้อน และใต้ร่มเงาของต้น ไม้เป็นต้น.
คำสอนที่ได้รับจากหะดีษนี้
1- ส่งเสริมให้รักษาความสะอาด
2- หลีกเลี่ยงการกระทำที่จะเป็นเหตุให้ถูกสาปแช่ง
3- ส่งเสริมให้รักษาสภาพแวดล้อมให้มีความสะอาด
4- ห้ามทำความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้คนทั่วไป
عَنْ جَابِرٍ رَضِيَ اللهُ عَنْهُ عَنِ النَّبِيِّ صلى الله عليه وسلم : أَنَّهُ نَهَى أَنْ يُبَالَ فِي الْمَاءِ الرَّاكِدِ
رواه مسلم
สาม : เล่าจากญาบิร (ร.ด.) จากท่านนบี (ซ.ล.) ว่า : แท้จริงท่านได้ห้ามปัสสาวะลงในน้ำนิ่ง.
รายงานโดยมุสลิม
ความหมายโดยสรุป
ท่านรอซูลุ้ลเลาะห์
(ซ.ล.) ได้ห้ามพวกเราปัสสาวะลงในน้ำนิ่งคือน้ำที่ไม่มีการไหลถ่ายเทเพราะจะทำให้เกิดความรู้สึกขยะแขยงแก่ผู้ที่จะมาใช้น้ำนั้นอีก การห้ามดังกล่าวนอกจากเป็นการรักษาแหล่งน้ำแล้ว ยังเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคต่างๆ ที่จะลงสู่แหล่งน้ำอีกด้วย
คำสอนที่ได้รับจากหะดีษนี้
1- ส่งเสริมให้รักษาแหล่งน้ำให้สะอาด
2- การปัสสาวะลงในแหล่งน้ำที่ไม่ไหลถ่ายเท ทำให้ประโยชน์การใช้น้ำเสียไป
3- ปัสสาวะจะทำให้น้ำในแหล่งนั้นกลายเป็นสิ่งโสโครก(นะญิส) หากมีปริมาณน้อย
4- ปัสสาวะจะทำให้เกิดความรู้สึกขยะแขยง ถ้าหากน้ำนั้นมีมาก
عَنْ أَبِيْ قَتَادَةَ رَضِيَ اللهُ عَنْهُ أَنَّ
رَسُوْلَ اللهِ صلى الله عليه وسلم قَالَ فِي الْهِرَّةِ : " إِنَّهَا
لَيْسَتْ بِنَجَسٍ ، إِنَّمَا هِيَ مِنَ الطَّوَّافِيْنَ عَلَيْكُمْ " رواه
أبوداود والترمذي
สี่ : เล่าจากอะบีกอตาดะห์
(ร.ด.) ว่า ท่านรอซูลุ้ลเลาะห์ (ซ.ล.) ได้กล่าวถึงเรื่องแมวว่า “ความจริงมันไม่ใช่เป็นสิ่งสกปรก (โสโครก) แต่มันเป็นสัตว์ที่ป้วนเปี้ยนอยู่กับพวกท่าน” รายงานโดยอะบูดาวูดและติรมีซี
ความหมายโดยสรุป
ท่านนบี (ซ.ล.) ได้อธิบายให้พวกเราทราบถึงข้อกำหนดของสิ่งต่างๆ ในหะดีษนี้ท่านได้อธิบายให้ทราบถึงข้อกำหนดของแมว ซึ่งเป็นสัตว์ที่ศาสนาไม่อนุญาตให้รับประทานเนื้อ แต่เป็นสัตว์ที่ใกล้ชิดและมักป้วนเปี้ยนอยู่กับผู้คน มีการสัมผัสกัน และบางครั้งก็โดนแมวเลียเป็นต้น ซึ่งท่านก็ได้อธิบายว่าแมวไม่ใช่สิ่งโสโครก (นะญิส) แต่อย่างใด.
คำสอนที่ได้รับจากหะดีษนี้
1-แมวไม่ใช่เป็นสิ่งโสโครก ดังนั้นสิ่งที่แมวสัมผัส หรือถูกแมวเลียจึงไม่เป็นสิ่งสกปรก
2- เหตุผลที่แมวไม่ใช่เป็นสิ่งโสโครกเพราะเป็นสัตว์ที่คลุกคลีใกล้ชิดกับผู้คน
عَنْ أَبِي وَاقِدٍ اللَّيْثِيِّ رَضِيَ اللهُ عَنْهُ
قَالَ : قَالَ رسولُ اللهِ صلى الله عليه وسلم " مَا قُطِعَ مِنَ
الْبَهِيْمَةِ وَهِيَ حَيَّةٌ فَهِيَ مَيْتٌ " رواه أبوداود والترمذي
ห้า : เล่าจากอะบีวากิด อัลลัยซีย์ (ร.ด.) ว่า ท่านรอซูลุ้ลเลาะห์ (ซ.ล.) ได้กล่าวว่า “ สิ่งที่ถูกตัดออกจากร่างของสัตว์ขณะมีชีวิต ถือว่าเป็นซาก” รายงานโดยอะบูดาวูด และติรมีซี.
ความหมายโดยสรุป
ท่านนบี
(ซ.ล.) ได้อธิบายให้ทราบถึงเรื่องการตัดชิ้นส่วน หรืออวัยวะใดอวัยวะหนึ่งของสัตว์ที่ศาสนาอนุญาตให้รับประทานเนื้อได้เช่นแพะ แกะ วัว ควายและอูฐเป็นต้นขณะมันยังมีชีวิตอยู่ ว่าชิ้นส่วนหรืออวัยวะที่ถูกตัดอกจากร่างของสัตว์ว่าเป็นซากของมัน คือเป็นสิ่งโสโครกที่ไม่อนุญาตให้รับประทาน.
คำสอนที่ได้รับจากหะดีษนี้
1-ชิ้นส่วนหรืออวัยวะที่ถูกตัดอกจากร่างของสัตว์ขณะมีชีวิต เป็นสิ่งโสโครกที่ศาสนาไม่อนุญาตให้รับ ประทาน
0 ความคิดเห็น