ระเบียบของการถือศิลอด

19:33:00

ระเบียบของการถือศิลอด

       สำหรับการถือศิลอดมีระเบียบหลายประการพอสรุปได้ดังต่อไปนี้ :

       1.  รีบละศิลอด :

       คือรีบละศิลอดทันทีภายหลังตะวันลับขอบฟ้า หลักฐานในเรื่องนี้ คือฮาดิษ บุคอรี ( 1856 ) และมุสลิม ( 1098 ) ที่รายงานจาก สะหัล    บุตร สะอัด ( ร.ด ) ว่าท่านรอซูลุ้ลเลาะห์ ( ซ.ล ) กล่าว่า :

       " มนุษย์จะยังคงอยู่ในความดี ตราบที่พวกเขารีบละศิลอด และที่ดีนั้นควรละศิลอดด้วยอินทผาลัมสด หรือแห้ง ถ้าหากไม่มีให้ละศิลอดด้วยน้ำ"

       ติรมีซี ( 696 ) และอบูดาวูด ( 3356 ) ได้รายงานว่าท่านนบี ( ซ.ล ) :

      " เคยละศิลอดก่อนละหมาด ด้วยอินทผาลัมสด ถ้าไม่มีก็ด้วยอินทผาลัมแห้ง และถ้าไม่มีท่านก็จะดื่มน้ำหลายอึก เพราะมันทำให้สะอาด "

       2.  รับประทานอาหารดึก ( สะฮูร ) :

       คือการรับประทานอาหารภายหลังเที่ยงคืนไปแล้ว หลักฐานในเรื่องนี้ได้แก่ ฮาดิษ บุคอรี ( 1823 ) และมุสลิม ( 1095 ) ได้รายงานจากท่านนบี ( ซ.ล ) ว่าท่านได้กล่าวว่า :

      " ท่านทั้งหลายจงรับประทานอาหารดึก เพราะในอาหารดึกนั้นมีความเพิ่มพูน "

       ส่วนเคล็ดลับที่สุนัตให้รับประทานอาหารดึกนั้น เพื่อให้แข็งแรงสามารถถือศิลอดในวันรุ่งขึ้นได้ ฮากิมได้รายงานในหนังสือ มุสตัดร๊อก ของเขา ( 1/425 ) ว่าท่านนบี ( ซ.ล ) ว่า :

      " ท่านทั้งหลายจงเอาอาหารดึกมาช่วยการถือศิลอดในเวลากลางวันเถิด "

        เข้าเวลาอาหารดึก เมื่อเข้าเวลาเที่งคืน การรับประทานอาหารดึกไม่ว่าจะมากหรือเล็กน้อย หรือเพียงแค่ดื่มน้ำ ก็ถือว่าได้รับความประเสริฐแล้ว

       อิบนุฮิบบานได้รายงานในหนังสือ ซอเฮี๊ยะของเขาว่าท่านนบี ( ซ.ล ) ได้กล่าวว่า :

       " ท่านทั้งหลายจงรับประทานอาหารดึกเถิด แม้เป็นน้ำเพียงอึกเดียวก็ตาม" ( มะวาริดุซซอมอาน 884 )

       3.  ควรรับประทานอาหารดึกในเวลาใกล้รุ่ง :

       โดยกะเวลาให้การรับประทานและดื่มน้ำเสร็จก่อนแสงอรุณขึ้นเล็กน้อย หลักฐานในเรื่องนี้ได้แก่ ฮาดิษ ที่อิหม่าม อะห์หมัดได้รายงานไว้ในหนังสือ มุสนัดของเขา ( 5/147 ) จากท่านนบี ( ซ .ล ) ว่า :

       " ประชากรของฉันจะคงอยู่ในความดี ตราบที่พวกเขารีบละศิลอด และล่าช้าการรับประทานอาหารดึก "

       และบุคอรี ( 556 ) ได้รายงานจากอะนัส ( ร.ด ) ว่าท่านนบี ( ซ.ล ) และ เซต บุตร ซาบิต ได้รับประทานอาหารดึก เมื่อทั้งสองรับประทานอาหารดึกเสร็จ ท่านนบี ( ซ . ล ) ได้ลุกขึ้นและไปละหมาดพวกเราถามอะนัสว่า ช่วงเวลาระหว่างที่ทั้งสองเสร็จจากการรับประทานอาหารดึกและเขาทั้งสองเข้าไปละหมาดห่างกันเท่าใด ? เขาตอบว่า เท่ากับช่วงที่คนหนึ่งอ่านกรุอ่านได้สิบห้าอายะห์


 4.  ควรต้องสงวนถ้อยคำ :

       โดยละทิ้งคำพูดประเภทโกหก ด่า นินทา ยุแหย่ และต้องควบคุมจิตใจ ไม่ให้เกิดกำหนัดต่างๆ เช่นการมองดูเพศตรงข้าม และฟังเพลง เป็นต้น บุคอรี ( 1804 ) ได้รายงานจาก อะบูฮูรอยเราะห์ ( ร.ด ) ว่า :

       " ท่านรอซูลุ้ลเลาะห์ ( ซ.ล ) ได้กล่าวว่า ผู้ใดไม่ละทิ้งคำพูดเท็จ และไม่เลิกกระทำการโป้ปด อัลเลาะห์จะไม่ทรงเกี่ยวข้องอะไรกับการที่เขาอดอาหารและเครื่องดื่ม "

       ที่จริงแล้วการด่าทอ การโกหก การนินทา และการยุแหย่นั้น ล้วนเป็นสิ่งที่ต้องห้าม ( ฮะรอม ) อยู่ในตัวของมันเองอยู่แล้ว แต่ที่นำมาเกี่ยวข้องกับผู้ที่ถือศิลอด ก็เพราะนอกจากเป็นบาป แล้ว มันยังทำลายผลบุญของการถือศิลอดอีกด้วย แม้ว่าการถือศิลอดจะมีผลใช้ได้และพ้นการบังคับ ของศาสนาก็ตาม ทั้งนี้เพราะสิ่งที่กล่าวมานี้จัดอยู่ในระเบียบของการถือศิลอด ที่ผู้ถือศิลอดต้องดำเนินตาม

       5.  ควรอาบน้ำยกฮะดัษใหญ่ ( ญูนุบ ) ก่อนแสงอรุณขึ้น :

      เพื่อให้ร่างกายสะอาดก่อนที่จะเริ่มต้นถือศิลอด ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า การมีญูนุบ จะทำการถือศิลอดไม่ได้ แต่ที่ดีนั้นควรอาบน้ำยกฮาดัษ ญูนุบ ก่อนแสงอรุณขึ้น หลักฐานในเรื่องดังกล่าว ได้แก่ ฮาดิษที่บุคอรี ( 1825 .1830 ) ได้รายงานว่า :

     " ท่านนบี ( ซ.ล ) มีญูนุบที่ไม่ใช่เกิดจากความฝัน หลังจากนั่นท่านได้อาบน้ำและทำการถือศิลอด "

       สำหรับสตรีที่หมดเลือดประจำเดือน และเลือดนิฟาส ก็ควรอาบน้ำยกฮาดัษก่อนแสงอรุณขึ้นถ้าเลือดหยุดก่อนหน้านั้น

       6.  ควรระงับการกรอกเลือด การเจาะเส้นเลือด และการกระทำคล้ายกับสองอย่างนี้ :

     เพราะจะทำให้ร่างกายของผู้ถือศิลอดอ่อนเพลีย และผู้ถือศิลอดไม่ควรซิมอาหารและใช้ลิ้นแตะอาหาร เพราะกลัวว่าจะมีสิ่งใดหลุดเข้าไปถึงเขตภายใน ซึ่งจะทำให้เสียการถือศิลอด


     7.  ควรกล่าวขณะละศิลอดว่า :

        ข้าแด่อัลเลาะห์เจ้า ข้าพเจ้าถือศิลอดเพื่อพระองค์ท่าน ข้าพเจ้าละศิลอดด้วยปัจจัยยังชีพ ( ริสกี ) ของพระองค์ท่าน ความากระหายมลายไป เส้นเลือดชุ่มน้ำ ผลบุญปรากฏหากอัลเลาะห์ประสงค์

       8.  ควรเลี้ยงอาหารละศิลอดแก่ผู้ถือศิลอด :

       โดยการเลี้ยงอาหาร และถ้าหากไม่สามารถเลี้ยงอาหารได้ ก็ให้อินทผาลัม หรือน้ำดื่มในการละศิลอด

       ท่านรอซูลุ้ลเลาะห์ ( ซ.ล ) กล่าวว่า :

       " ผู้ใดเลี้ยงอาหารละศิลอดแก่ผู้ถือศิลอด เขาจะได้รับผลบุญเท่ากับผู้ถือศิลอด โดยไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันเลย "

       9.  ทำทานให้มาก อ่านและทบทวนอัลกรุอ่าน เอี๊ยะตีกาฟในมัสยิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสิบวันสุดท้ายของรอมาดอน :

       เล่าจากอนัส ( ร.ด ) ว่า ได้มีผู้ถามว่า  โอ้ท่านรอซูลุ้ลเลาะห์ การทำทานอะไรประเสริฐที่สุด  ท่านตอบว่า การทำทานในรอมาดอน  รายงานโดย ติรมีซี ( 663 )

        บุคอรี ( 1803 ) และมุสลิม ( 2308 ) รายงานว่า ญิบรีลได้พบท่านนบี ( ซ.ล ) ทุกปี ในรอมาดอนจนสิ้นเดือน ญิบรีลจะนำอัลกรุอ่านมานำเสนอต่อท่านนบี ( ซ.ล ) สำหรับเรื่องเอี๊ยะตีกาฟ จะนำมากล่าวไว้ท้ายเรื่องการถือศิลอด

       สิ่งที่ไม่ควรปฏิบัติ ( มักรูห์ ) ในขณะถือศิลอด :

       สิ่งที่ไม่ควรปฏิบัติขณะถือศิลอดใด้แก่สิ่งที่ขัดกันกับระเบียบของการถือศิลอดดังได้กล่าวมาแล้ว บางอย่างจัดเข้าอยู่ในประเภท มักรูห์ตันซีห์ เช่น ล่าช้าในการละศิลอดและรีบรับประทานอาหารดึก ( สะฮูด ) และบางอย่างจัดเข้าอยู่ในประเภท สิ่งที่ต้องห้าม ( หะรอม ) เช่น การนินทา การยุแหย่ และการพูดปด

You Might Also Like

0 ความคิดเห็น

Popular Posts

featured Slider

Popular Posts

Like us on Facebook

ต่อไปนี้คือแบบฉบับของมวลมนุษยชาติ ที่เรามีความภูมิใจไว้นำเสนอ เพื่อให้เยาชนมุสลิมของเราได้ศึกษาและยึดถือเป็นแบบอย่าง และดำเนินชีวิตในท่ามกลางแสงสว่างจากการชี้นำของพวกเขา

Flickr Images



บทเรียนสั้นๆเหล่านี้กล่าวถึงเรื่อง “อุลูมุ้ลกุรอาน” ที่เราต้องการนำเสนอแก่กุลบุตรกุลธิดาของเรา ก่อนที่พวกเขาจะศึกษาวิชา “ตัฟซีร” เพื่อให้พวกเขาได้เรียนรู้ข้อมูลที่นักวิชาการทั้งยุคเก่าและยุคใหม่ได้นำเสนอไว้ เพื่อรับใช้อัลกุรอาน